หุ้นไทยปิดลบ 8.67 จุด อยู่ที่ระดับ 1,589.19 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 56,862.08 ล้านบาท นักลงทุนยังกังวลราคาน้ำมันปิดปรับตัวลดลงรุนแรงหลังการรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด และรัฐเตรียมเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่ม
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (3 พ.ค.) ปิดที่ระดับ 1,589.19 จุด ปรับตัวลดลง 8.67 จุด หรือ 0.54% มูลค่าการซื้อขาย 56,862.08 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,603.01 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,588.04 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 249 หลักทรัพย์ ลดลง 423 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 126 หลักทรัพย์
การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,242.03 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 69.22 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 113.29 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 1,424.54 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
CPALL ปิดที่ 41.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 5.68% มูลค่าการซื้อขาย 5,446,948 ล้านบาท
INTUCH ปิดที่ 86.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.29% มูลค่าการซื้อขาย 3,493,350 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 327.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 หรือ 0.31% มูลค่าการซื้อขาย 1,689,214 ล้านบาท
ADVANCE ปิดที่ 267.00 บาท ลดลง 8.00 บาท หรือ 1.11% มูลค่าการซื้อขาย 1,685,991 ล้านบาท
JAS ปิดที่ 8.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 1.82% มูลค่าการซื้อขาย 1,530,974 ล้านบาท
นักวิเคราะห์จาก บล.หลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวว่า แนวโน้มการปรับตัวลดลงของดัชนีในวันนี้ แม้ว่าจะได้รับแรงบวกจากการส่งสัญญาณบวกต่อการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย แต่ด้วยการคาดหวังของตลาดที่มีก่อนหน้า ส่งผลให้ประเด็นดังกล่าวไม่สร้างแรงซื้อมากนัก ขณะที่การรายงานตัวเลขต่างๆ เริ่มชะลอตัวมากขึ้น เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ด้านปัจจัยในประเทศค่าเงินบาทยังคงเดินหน้าอ่อนค่า ขณะที่รัฐบาลยังไม่มีให้ความชัดเจนใดๆ ออกมา จะติดตามประเด็นการฟ้องร้องโครงการน้ำ ซึ่งอาจทำให้หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างชะงักลงไปบ้าง โดยนักลงทุนบางส่วนอาจเทขายออกมาทำกำไร เพื่อรอสะสมกลับเมื่อราคาอ่อนตัว