ตระกูล “ลีนะบรรจง” เล็งควบรวมบริษัทอสังหาฯ ในเครือสานฝันจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังซุ่มตั้งบริษัทใหม่ 6-7 บริษัทพัฒนาโครงการห้องชุดแบรนด์ดัง คลาสส์-พรีม่า-โซซิโอ จนประสบความสำเร็จ ล่าสุด ผุดบริษัทลูก “หลังสวน แอสเซส” เปิดตัวโครงการห้องชุด คลาสส์หลังสวน มูลค่า1,100 ล้านบาท คาดปี 56 รับรู้รายได้จากโครงการโซซิโอ สุขุมวิท 61 รวม 450 ล้านบาท
นายธานินทร์ ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลังสวน แอสเซส จำกัด กล่าวว่า ในระยะอันใกล้นี้มีแผนจะรวมบริษัทในเครือเพื่อจัดตั้งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์เดียว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ในการพัฒนาโครงการแต่ละครั้งจะใช้วิธีการจัดตั้งบริษัทใหม่ในการพัฒนาโครงการใหม่ ทำให้ ณ ปัจจุบันนี้ มีบริษัทในเครือที่ก่อตั้งมาพัฒนาโครงการอสังหาฯ แล้ว 6-7 บริษัท โดยการควบรวมบริษัทในเครือทั้งหมดดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา และหารือของคณะกรรมการบริษัท
“อนึ่ง ในการจัดควบรวมบริษัทอสังหาฯ ทั้งหมดในกลุ่มของ ตระกูล “ลีนะบรรจง” นั้นคาดว่าเป้นการดำเนินการเพื่อรองรับการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต และเพื่อให้เกิดเอกภาพในการบริหารงาน และดำเนินนโยบายการพัฒนาที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งกลุ่ม”
ทั้งนี้ กลุ่ม “ลีนะบรรจง” มีการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯ แนวสูงมาแล้วระยะหนึ่ง โดยแบ่งการพัฒนาสินค้าจับกลุ่มลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะใช้แบรนด์ต่างกันออกไป คือ แบรนด์ พรีม่า ซึ่งมีราคาขาย 60,000-70,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) พัฒนาเป็นห้องชุดขนาดเล็ก แบรนด์โซซิโอ ระดับราคา 80,000-100,000 บาทต่อ ตร.ม. พัฒนาห้องชุดขนาดเล็ก-กลาง และแบรนด์คลาสส์ ระดับราคา 150,000 -200,000 บาทต่อ ตร.ม. ซึ่งพัฒนเป็นห้องขนาดกลางจับตลาดลักชัวรี่
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะลงทุนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบานยในการพัฒนาโครงการไม่น้อยกว่า 1-2 โครงการต่อปี โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวโครงการคลาส สีลม มูลค่า 900 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว 85% คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปีนี้ โดยขณะนี้โครงการดังกล่าวเริ่มก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในปี 2557 ในช่วงปลายปี และจะสามารถทยอยโอนห้องชุดให้ลูกค้าได้ในระหว่างปลายปี 2557 ต่อเนื่องต้นปี 58
ส่วนในปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 2 โครงการ โดยล่าสุดได้เปิดตัวโครกงการ คลาสส์หลังสวน โครงการอาคารชุดโรวไรส์ บนพื้นที่ 1 ไร่ 11 ตร.ว. จำนวน 110 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 180,000 บาทต่อ ตร.ม. มูลค่าขายรวม 1,100 ล้านบาท ระดับราคาขายเริ่มต้น 5-25 ล้านบาท
“สำหรับบริษัท หลังสวน แอสเซสฯ มีทุนจดทะเบียนรวม 300 ล้านบาท โดยมีนายธนินทร์ ถือหุ้นในสัดส่วน 50% โดยบริษัทมีนโยบายในการกู้ยืมเพื่อพัฒนาโครงการในสัดส่วน 60-40 ซึ่งเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินนั้นจะใช้เฉพาะในส่วนของการก่อสร้างโครงการเท่านั้น”
นายธเนศ อรุณวิณิชย์พร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กล่าวว่า ในฐานะที่อยู่ในแวดวงธุรกิจก่อสร้างมองว่า ปัจจัยลบของตลาดอสังหาฯ ในขณะนี้ คือการขาดแคลนผู้รับเหมาก่อสร้าง และแรงงานก่อสร้าง ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยดังกล่าว ทำให้ต้นทุนก่อสร้างในระบบปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของการขาดแคลนบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่ทำให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างมีการปรับขึ้นราคาค่าก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2555 เป็นต้นมายิ่งส่งผลต่อราคาขายโครงการที่อยู่อาศัยในขณะนี้
“ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และบริษัทรับเหมาก่อสร้างขณะนี้ทำให้งานก่อสร้างของผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลายๆ แห่งประสบปัญหาการก่อสร้าง และคุณภาพงานก่อสร้าง แต่ในส่วนของบริษัทถือว่ามีข้อได้เปรียบเพราะมีจุดแข็งที่มีบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และแรงงานในมือไว้รองรับงานก่อวร้างโครงการของบริษัทอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ ในปี 2556 นี้ บริษัทในเครือจะมีรายได้รับรู้จากการส่งมอบห้องชุดเข้ามา 450 ล้านบาท โดยจะมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการโวซิโอ สุขุมวิท 61 ซึ่งปิดการขายแล้ว และจะก่อสร้างแล้วเสณ้จในปีนี้ ส่วนในปี 57-85 จะเป็นการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการคลาสส์สีลมรวม 900 ล้านบาท