xs
xsm
sm
md
lg

พลัสฯ เดินหน้าเพิ่มบุคลากรรองรับงานบริหารโครงการแสนสิริ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ
พลัสฯ เผยแผนปี 56 เดินหน้าเสริมศักยภาพ-เพิ่มจำนวนบุคลากร รองรับงานบริหารโครงการแสนสิริในอีก 1-2 ปีข้างหน้า พร้อมตั้งเป้าปี 56 รายได้เติบโต 11% จากปี 55 ซึ่งมีรายได้รวมกว่า 758 ล้านบาท แจงไตรมาสแรกปีนี้มีรายได้แล้ว 211 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 55 กว่า 29% ยันไม่มีสัญญาณฟองสบู่ในระบบ

นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท พลัส พอร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้จากธุรกิจตัวแทน ซื้อ ขาย เช่า อสังหาฯ รวม 758 ล้านบาท เติบโตจากปี2554 กว่า 41% โดยมาจากการบริหารการขายโครงการมูลค่ารวม 38,600 ล้านบาท แบ่งเป็นการขายโครงการห้องชุดของบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทแม่ จำนวน 47 โครงการ มูลค่า 28,600 ล้านบาท และงานบริหารการขายบริษัทอื่นๆ 17 โครงการมูลค่า 10,000 ล้านบาท ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 11% จากปี2555 โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 211 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 29%

ทั้งนี้ ในส่วนธุรกิจบริหารจัดการด้านที่พักอาศัย ในปี 55 พลัสฯ มีพอร์ตที่บริหารอยู่ในมือ 122 โครงการ ในจำนวนนี้เป็นโครงการของแสนสิริ 80% ซึ่งเพิ่มจากปี 2554 ที่มีสัดส่วนโครงการของแสนสิริอยู่ 70% ขณะที่ธุรกิจบริหารทรัพยากรอาคารมีพอร์ตอยู่ 23 โครงการ โดยล่าสุด ได้รับการแต่งตังให้บริหารศูนย์การค้า และโครงการจามจุรีสแควร์ และ “SENA fest” คอมมูนิตีมอลล์ โครงการแรกของเสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

สำหรับปี 2556 นี้ พลัส มีแผนจะเพิ่มจำนวนบุคลากรเพื่อรองรับงานบริหารโครงการของแสนสิริ ที่จะเริ่มทยอยก่อสร้างเสร็จ และส่งมอบให้แก่ลูกค้าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยการผลิตบุคลากรใหม่ๆ นี้จะเน้นรองรับงานของบริษัทแม่เป็นหลัก ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงเน้นพัฒนาใน 2 ด้านหลักๆ คือ การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และการเน้นธุรกิจให้บริการด้านอสังหาฯ เป็นหลัก ปัจจุบัน พลัสฯ มีพนักงานรวม 1,400 คน

ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันยังมีอัตราการขยายตัวที่ต่อเนื่องจากปีก่อน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดหัวเมืองใหญ่ เช่น ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงใหม่ อุดรธานี นครราชสีมา สงขลา ชลบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และอีสาน ทั้งนี้ จากการลงทุนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานในต่างจังหวัดภาคอีสาน และภาคเหนือ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ทำให้มีการขยายการลงทุนจำนวนมาก ประกอบกับรัฐบาลปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ทำให้แรงงานในระบบกลับสู่ท้องถิ่นจนเกิดวิกฤตแรงงานในขณะนี้

ในส่วนของกรณีความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาฯ ขณะนี้ จากการบริหารงาน การสำจวรและวิจัยตลาดของพลัสฯ ยืนยันว่า ปัญหาฟองสบู่ที่นักวิชาการ และนักเศรษฐศาสตร์กังวลในขณะนี้ยังมีมีสัญญาให้เห็น แต่ยอมรับว่าในกลุ่มผู้ซื้อที่อยู่อาศัยห้องชุดในตลาดขณะนี้ประกอบด้วยกลุ่มลูกค้า 3 กลุ่ม คือ กลุ่มนักลงทุนระยะสั้น หรือเก็งกำไร ซึ่งมีอยู่ในทุกๆโครงการประมาณ 5-10% กลุ่มลูกค้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง 60-70% และอีก 15-20% เป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว

โดยในส่วนของกลุ่มผู้จองซื้อห้องชุดแล้วนำใบจองไปขายต่อในตลาดขณะนี้มีอยู่น้อยมาก ขณะที่ผู้ซื้อลงทุนระยะสั้นมีประมาณ 2-3% ที่นำห้องชุดกลับมารีเซล หรือฝากขายกลับ พลัส ขณะที่กลุ่มผู้ซื้อลงทุนระยะยาวนั้น แทบไม่มีการนำห้องชุดกลับมาฝากขายกับบริษัท เนื่องจากห้องชุดที่สร้างเสร็จแล้วในทำเลดีๆ ในปัจจุบันมีการปรับขึ้นของราคาขายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะห้องชุดในทำเลสุขุมวิท และในทำเลที่หาที่ดินพัฒนาโครงการใหม่ไม่ได้แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น