ผลสำรวจ บจ. ปิดบุ๊ก พบรายชื่อ “บิ๊กเนม” โผล่ถือหุ้นเพียบ “เสี่ยยักษ์” กอดหุ้น “ทรู” แน่นเอี้ยด 336 ล้านหุ้น “เสี่ยป๋อง-เจ้าสัวชาตรี” ถือหุ้น “คันทรี่” ติดอันดับด้วย
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ปิดสมุดทะเบียนประชุมผู้ถือหุ้น วันที่ 15 มี.ค.2556 ซึ่งบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวนหุ้นที่ถือ 5,298.75 ล้านหุ้น คิดเป็น 36.54% และอีกหลายบริษัทในกลุ่มซีพีที่ถือหุ้นตามปกติ
นอกจากนี้ มีชื่อนักลงทุนรายใหญ่ถือหุ้น TRUE คือ นายวิชัย วชิรพงศ์ หรือ “เสี่ยยักษ์” นักลงทุนรายใหญ่ ถือหุ้นอันดับที่ 9 จำนวน 245.94 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.70% และนายจักรพันธุ์ วชิรพงศ์ ถืออันดับ 17 จำนวน 90.05 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.62% รวมถือหุ้น 335.99 ล้านหุ้น หรือ 2.32%
นายวิชัย กล่าวว่า ทยอยซื้อหุ้น TRUE ตั้งแต่ราคา 3.80 บาท และซื้อเฉลี่ยมาต่อเนื่องมีกำไรจากการลงทุน จึงได้ขายหุ้นบางส่วนออกไป และถือไว้บางส่วน
สาเหตุที่เข้าไปซื้อ TRUE เป็นการลงทุนตามปกติ ซึ่งเป็นหุ้นที่มีอนาคตดี จากการให้บริการ 3จี และการให้บริการด้านอื่นทั้งทรูออนไลน์ ทรูวิชั่นส์
“บทวิเคราะห์ เอเซีย พลัส มองหุ้นสื่อสารจะเป็นหมวดที่เติบโตที่สุด โดยเฉพาะทรูปัจจุบัน เสียค่าสัมปทาน 30% ของรายได้ การทำ 3จี จะประหยัดค่าสัมปทาน 24.75% ขณะที่ เอไอเอส จ่ายค่าสัมปทาน 20% ถ้าทำ 3จี จ่ายค่าสัมปทาน 5.25% ประหยัดเพียง 14.75% เท่านั้น นอกจากนี้ ทรูมีแผนทำอินฟราสตรักเจอร์ ฟันด์ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย” เสี่ยยักษ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม วันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) จะพิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม TRUE เกี่ยวกับการทำสัญญาเกี่ยวกับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่บนคลื่นความถี่ 800 เมกะเฮิรตซ์ กับ กสท โทรคมนาคม
นอกจากนี้ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 มี.ค.2556 นายบี เตชะอุบล ยังคงถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 453.68 ล้านหุ้น คิดเป็น 18.56%
นายวัชระ แก้วสว่าง นักลงทุนรายใหญ่ หรือเสี่ยป๋อง ถือหุ้นอันดับที่ 10 จำนวน 50 ล้านหุ้น หรือ 2.05% และนายชาตรี โสภณพนิช เจ้าของธนาคารกรุงเทพ ถือหุ้นลำดับที่ 26 จำนวน 13.67 ล้านหุ้น หรือ 0.56%
เสี่ยป๋อง กล่าวว่า เข้าไปซื้อหุ้น CGD ตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ต้นทุน 90 สตางค์ เห็นว่ากราฟเทคนิคสวย และเพื่อนแนะนำว่าโครงการคอนโดมิเนียมของ CGD ขายได้ จึงเข้าไปลงทุน
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ปิดสมุดทะเบียนประชุมผู้ถือหุ้น วันที่ 15 มี.ค.2556 ซึ่งบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวนหุ้นที่ถือ 5,298.75 ล้านหุ้น คิดเป็น 36.54% และอีกหลายบริษัทในกลุ่มซีพีที่ถือหุ้นตามปกติ
นอกจากนี้ มีชื่อนักลงทุนรายใหญ่ถือหุ้น TRUE คือ นายวิชัย วชิรพงศ์ หรือ “เสี่ยยักษ์” นักลงทุนรายใหญ่ ถือหุ้นอันดับที่ 9 จำนวน 245.94 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.70% และนายจักรพันธุ์ วชิรพงศ์ ถืออันดับ 17 จำนวน 90.05 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.62% รวมถือหุ้น 335.99 ล้านหุ้น หรือ 2.32%
นายวิชัย กล่าวว่า ทยอยซื้อหุ้น TRUE ตั้งแต่ราคา 3.80 บาท และซื้อเฉลี่ยมาต่อเนื่องมีกำไรจากการลงทุน จึงได้ขายหุ้นบางส่วนออกไป และถือไว้บางส่วน
สาเหตุที่เข้าไปซื้อ TRUE เป็นการลงทุนตามปกติ ซึ่งเป็นหุ้นที่มีอนาคตดี จากการให้บริการ 3จี และการให้บริการด้านอื่นทั้งทรูออนไลน์ ทรูวิชั่นส์
“บทวิเคราะห์ เอเซีย พลัส มองหุ้นสื่อสารจะเป็นหมวดที่เติบโตที่สุด โดยเฉพาะทรูปัจจุบัน เสียค่าสัมปทาน 30% ของรายได้ การทำ 3จี จะประหยัดค่าสัมปทาน 24.75% ขณะที่ เอไอเอส จ่ายค่าสัมปทาน 20% ถ้าทำ 3จี จ่ายค่าสัมปทาน 5.25% ประหยัดเพียง 14.75% เท่านั้น นอกจากนี้ ทรูมีแผนทำอินฟราสตรักเจอร์ ฟันด์ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย” เสี่ยยักษ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม วันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) จะพิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม TRUE เกี่ยวกับการทำสัญญาเกี่ยวกับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่บนคลื่นความถี่ 800 เมกะเฮิรตซ์ กับ กสท โทรคมนาคม
นอกจากนี้ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 มี.ค.2556 นายบี เตชะอุบล ยังคงถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 453.68 ล้านหุ้น คิดเป็น 18.56%
นายวัชระ แก้วสว่าง นักลงทุนรายใหญ่ หรือเสี่ยป๋อง ถือหุ้นอันดับที่ 10 จำนวน 50 ล้านหุ้น หรือ 2.05% และนายชาตรี โสภณพนิช เจ้าของธนาคารกรุงเทพ ถือหุ้นลำดับที่ 26 จำนวน 13.67 ล้านหุ้น หรือ 0.56%
เสี่ยป๋อง กล่าวว่า เข้าไปซื้อหุ้น CGD ตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ต้นทุน 90 สตางค์ เห็นว่ากราฟเทคนิคสวย และเพื่อนแนะนำว่าโครงการคอนโดมิเนียมของ CGD ขายได้ จึงเข้าไปลงทุน