“บี เตชะอุบล” เข้าถือหุ้น เค-เทค คอนสตรัคชั่น 70% คาดปีหน้ากลับมาซื้อขายในกระดานปกติได้ เผยขณะนี้มีงานรอเซ็นสัญญาก่อสร้างมูลค่ารวม 5 พันล้านบาท พร้อมเตรียมเสนอผู้บริหารแผนฟื้นฟูเข้าไเป็นกรรมการ
นายโดนัล เอียน แม็คเบน กรรมการและผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท เค-เทค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTECH แจ้งว่า วันที่ 5 เมษายน 55 ทางบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับนายบี เตชะอุบล ซึ่งนายบี เตชะอุบล จะเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 70% ตามแผนฟื้นฟูกิจการ ที่ได้รับความเห็นชอบจากศาลล้มละลายกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.15/2553
นายบี เตชะอุบล นักลงทุนรายใหญ่ และอดีตผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เปิดเผยว่า ตนได้เข้าไปเพิ่มทุนใน KTECH ทำให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วนเรื่องเม็ดเงินเพิ่มทุนนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน โดยเหตุที่ตนเข้าไปลงทุนเนื่องจาก มองว่าบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่ดี และมีชื่อเสียงในการดำเนินธุรกิจก่อสร้าง และมีผลงานที่ยอมรับ พนักงานดีมีฝือมือ แต่ที่ผ่านมา บริษัทมีปัญหาหลังจากที่ผู้ก่อตั้งบริษัทได้เสียชีวิตไป
ทั้งนี้ เงินที่เพิ่มทุนเข้าไปนั้นก็จะเข้าช่วยเรื่องการเงินของบริษัทให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการเข้าไปรับงานมากขึ้น และตนก็จะเข้าไปช่วยในการหางานให้แก่บริษัทมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน บริษัทได้รับงานใหม่แล้ว โดยขณะนี้ มีงานที่รอจะเซ็นสัญญามูลค่างานรวม 5,000 ล้านบาท ณ ไตรมาส 2/55 และเชื่อว่าจะมีการเซ็นสัญญารับงานมากขึ้น แต่ขณะนี้ตนยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลการคาดการณ์ผลการดำเนินงานปีนี้ของ KTECH ได้ เพราะอยู่ในกระบวนการดำเนินงานแผนฟื้นฟูกิจการ แต่เร็วๆ นี้ตนก็จะเสนอต่อผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ ในการเข้าไปเป็นกรรมการบริษัท
สำหรับส่วนตัวคาดว่า KTECH จะสามารถกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในปีหน้า ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นการเริ่มทำธุรกิจใหม่อีกครั้ง โดยที่เริ่มมีงานใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น ซึ่งตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทที่อยู่ในกลุ่มบริษัทที่แก้ไขผลการดำเนินงานไม่ได้ภายในกำหนด (Non Performing Groupหรือ NPG) จะกลับมาเทรดได้ต้องมีกำไรสุทธิติดต่อกัน 3 ไตรมาส และมีส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวก
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่า KTECH จะมีแนวโน้มในการเติบโตที่ดีในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนได้ตามเป้าหมายการลงทุนของตนที่ตั้งไว้ 100-300% ภายใน 3 ปี
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายบีกล่าวว่า กลุ่มของตนมีแผนที่จะเข้าไปลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง การเงิน เป็นต้น ซึ่งมีขนาดตลาดตั้งแต่ 100-3 หมื่นล้านบาท โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่จะต้องมีเสียงมากพอเพื่อเข้าร่วมบริหาร