"คันทรี่" โต้คลิปเสียงร่วมฮุบ TTA คนทีเอ็มบีเตรียมขับ "วิจิตร" พ้นแบงก์

บล.คันทรี่ โต้คลิปเสียงมีรายชื่อร่วม 13 โบรกฯ ฮุบหุ้น TTA ด้าน "ซีอีโอ" ย้ำไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง แม้จะเป็นเพื่อกับ "บี เตชะอุบล" และเคยเป็นผู้บริหารที่คันทรี่ ทำให้ถูกมองว่ามีส่วนร่วม ขณะที่ TTA เผยผลตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้น 75 ราย พบบางส่วนไม่ตรงกับบัญชี ณ วันที่ 2 มิ.ย. ขณะที่ "วิจิตร" ยังไม่พ้นบ่วงกรรม โดนคนแบงก์ทหารไทยไล่ตะเพิดซ้ำ แม้จะเป็นตัวแทนกลุ่มไอเอ็นจี

ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS กล่าวถึงกรณีบริษัทถูกนำไปเกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการ (เทคโอเวอร์) บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA โดยขอปฏิเสธว่า บริษัทไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกรณีดังกล่าว รวมถึงไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ถูกพาดพิงตามคลิปเสียงที่พาดพิงถึงบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) จำนวน 13 แห่ง

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดกรณีข่าวจนถึงปัจจุบัน บริษัทยังไม่ได้รับการสอบถามเพื่อขอข้อมูลจากทางการ ทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แต่อย่างใด

"ยืนยันว่า ตั้งแต่มีข่าวเรื่อง TTA เรายังไม่ได้รับการสอบถามจากทางการ เราไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับคุณบี (เตชะอุบล) แม้ผมกับคุณบีจะเป็นเพื่อนกัน ทุกคนอาจมองว่า บริษัทเราอาจเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะในอดีตคุณบีเคยทำงานเป็นผู้บริหารที่นี่"

สำหรับการวิเคราะห์ที่ออกมา ยืนยันว่า บริษัททำตามกฎเกณฑ์ เท่าที่ตรวจสอบยังไม่มีการผิดพลาด ฝ่ายตรวจสอบก็มีการติดตามดูอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ทำงานยึดมั่นเดินตามจรรยาบรรณและธรรมาภิบาล ยืนยันว่าเรื่องการเทคโอเวอร์ดังกล่าว บริษัทตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ บริษัทยอมรับว่า ถูกดึงตัวเจ้าหน้าที่มาร์เก็ตติ้งจำนวน 3 รายที่ดูพอร์ตลงทุนในหุ้นของบริษัทไปยัง บล.ซีไอเอ็มบี ในเดือนนี้จริง โดยเจ้าหน้าที่ 3 รายดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 30-40% ของผลตอบแทนจากพอร์ตลงทุน แต่ในเดือนกรกฎาคม 2554 นี้ บริษัทจะได้เจ้าหน้าที่มาร์เก็ตติ้งใหม่มาทดแทนจำนวน 3 ราย ซึ่งยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญา จึงไม่สามารถให้ข้อมูลรายละเอียดได้

โดยปัจจุบันพอร์ตลงทุนในหุ้น ของบริษัทใช้วงเงินอยู่ที่จำนวน 125 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่ใช้วงเงินจำนวน 100 ล้านบาท โดยในปีนี้คาดว่าจะใช้วงเงินตามแผนวงเงินดังกล่าวไปจนถึงสิ้นปี สำหรับวงเงินใหม่ในปีหน้าจะมีการจัดทำแผนอีกครั้ง

นอกจากนี้ แนวโน้มกำไรสุทธิในปีนี้จะดีกว่าปี 2553 แม้ภาวะตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะไม่เอื้ออำนวย โดยในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ไว้ที่ประมาณ 5-6% จากเดิมที่คาดว่าจะมีมาร์เก็ตแชร์ถึง 7% เนื่องจากภาวะตลาดยังไม่เอื้อต่อนักลงทุนรายใหญ่ ขณะที่บริษัทมีลูกค้าหลักเป็นนักลงทุนภายในประเทศที่มีลักษณะการลงทุนเก็งกำไร ซึ่งหากภาวะตลาดไม่ดีจะส่งผลให้ลูกค้าหลีกเลี่ยงการลงทุน

สำหรับในช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นลดลงแรง บริษัทได้รับผลกระทบไม่มาก โดยมีการบังคับขาย (Force Sel)l ลูกค้าไปเพียง 1 ราย เนื่องจากบริษัทมีเกณฑ์การดูแลที่ค่อนข้างเข้มงวดกว่าเกณฑ์ปกติของ ก.ล.ต. ซึ่งหากราคาหลักทรัพย์ลดลงมากกว่าหลักประกันที่นำมาค้ำประกันและเกณฑ์การ Force Sell

**แผนประชุมผู้ถือหุ้นส่อเค้าล่ม

ขณะที่ TTA แจ้งว่า ตามที่บริษัทได้รับจดหมายลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 จากกลุ่มนักลงทุนจำนวน 75 ราย ซึ่งระบุว่ามีจำนวนหุ้นรวมกัน 72,212,550 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 10.199 ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วของบริษัทฯ เพื่อขอให้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ

บริษัทฯ ได้ขอให้บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะนายทะเบียนหุ้นของบริษัทฯ ออกบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ ได้จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นส่งมาถึงบริษัทฯ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2554 โดยเป็นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2554

จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ทางศูนย์รับฝากได้ออกให้บริษัทฯ เปรียบเทียบกับข้อมูลและจำนวนหุ้นตามที่ปรากฎในจดหมายจากผู้ถือหุ้นพบว่ามีผู้ถือหุ้นบางรายไม่ปรากฎชื่อเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุด ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2554 และมีผู้ถือหุ้นบางรายมีจำนวนหุ้นตามสมุดบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุด ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2554 ไม่ตรงกับจำนวนที่ปรากฎในจดหมายของผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ถือหุ้นบางรายของบริษัทฯ เพื่อขอให้นำส่งข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติม เพื่อยืนยันการถือหุ้นมายังบริษัทฯ

**คนแบงก์ทหารไทยตะเพิดวิจิตร

นายสุขุม เครือวรรณ ประธานกรรมการสหภาพแรงงานพนักงานธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า ตนเองได้ทำหนังสือถึงนางเสาวนีย์ กมลบุตรประธานกรรมการธนาคารและคณะกรรมการธนาคาร เพื่อพิจารณาว่านายวิจิตร สุพินิจ ประธานกรรมการตรวจสอบธนาคาร อดีตประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีคุณสมบัติเหมาะสมในการทำงานเพื่อสร้างธรรมาภิบาลให้กับธนาคารหรือไม่อย่างไร

นายสุขุม กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานธนาคารทหารไทยมีความรู้สึกว่า นายวิจิตรไม่เหมาะสมเป็นกรรมการธนาคารอีกต่อไป เพราะไม่มีธรรมาภิบาล เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเทกโอเวอร์กิจการแบบไม่เป็นมิตรในกิจการ TTA ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นถึงประธานบอร์ด ก.ล.ต. ที่กำกับดูแลการซื้อขายหุ้น

ด้านนางเสาวนีย์ กล่าวยืนยันว่า ตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องนายวิจิตรที่เป็นกรรมการธนาคาร หลังจากเกิดความขัดแย้งใน TTA จนนายวิจิตรต้องลาออก ขณะนี้ขอพิจารณาข้อมูลของ ก.ล.ต.ก่อน เพราะนายวิจิตรเป็นตัวแทนของไอเอ็นจีพันธมิตรหลักของธนาคาร ซึ่งขณะนี้ไอเอ็นจียังไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้แต่เมื่อข้อมูลมีเหตุมีผลที่ดีก็จะนำไปหารือกับไอเอ็นจีอีกครั้ง