xs
xsm
sm
md
lg

BECL กำไรมีลุ้นปีนี้ 5 พันล้าน TTW ให้ทั้งส่วนต่าง & ผลดำเนินงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL) กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจปี 2556 ว่า การเติบโตของกำไรในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา ซึ่งทำกำไรได้ 2,254 ล้านบาท สูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานมา 25 ปี โดยผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากการรับรู้กำไรจากรายได้ค่าผ่านทางที่เติบโตเพิ่มขึ้น อีกทั้งในปีนี้ จะมีการเจรจากับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในการขอปรับราคาค่าผ่านทางขึ้นอีก 5/10/15 บาท ตามเงื่อนไขสัญญาที่ระบุไว้

นอกจากนี้ บริษัทจะรับผลกำไรจากการเข้าลงทุนใน บมจ.น้ำประปาไทย (TTW) ประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่ง BECL ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 20.24% จากเดิม 9.24% ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา อีกทั้งบริษัทจะบันทึกกำไรจากการปรับมูลค่าของ TTW ในสัดส่วนเดิมที่เคยถือ 9.24% หรือ 368.75 ล้านหุ้น ในราคาต้นทุน 3.08 บาท/หุ้น เป็น 10.70 บาท/หุ้น ซึ่งจะทำให้มีกำไรทางบัญชีเพิ่มเข้ามาอีก 2,800 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน จากการที่ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ เตรียมที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงพฤษภาคมนี้ ทางบริษัทในฐานะผู้ถือหุ้น 30% พร้อมที่จะแบ่งหุ้นจำนวน 20 ล้านหุ้นออกมาเสนอขายให้แก่นักลงทุนทั่วไปด้วย ซึ่งจะทำให้มีกำไรจากการขายหุ้นดังกล่าวเข้ามาบันทึกด้วย โดยทุก 1 บาทของราคาหุ้นซีเค พาวเวอร์ จะเป็นกำไรต่อการขายหุ้นครั้งนี้ของ BECL ประมาณ 20 ล้านบาท

นางพเยาว์ กล่าวว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อหุ้นใน BECL เพิ่มขึ้น 3-4% เพราะมองว่ามีปัจจัยพื้นฐานที่ดี รวมไปถึงยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือ การลงทุนทางด่วนพิเศษใหม่ ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก มูลค่าลงทุน 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างเมื่อกลาง ธ.ค.55 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ ธ.ค.59 โดยความคืบหน้างานก่อสร้าง 2% รวมทั้งบริษัทได้ลงทุนอีก 200 ล้านบาท ในการสร้างทางเชื่อมจากมักกะสันไปสนามบินสุวรรณภูมิที่จะเชื่อมกับด่านจตุรทิศ โดยเก็บค่าผ่านทาง 25 บาท จะใช้เวลาก่อสร้าง 16 เดือน และเริ่มรับรู้รายได้ปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน 2 รายเข้ามาเสนอให้บริษัทจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพราะบริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วน โดยคาดว่าจะสรุปเรื่องนี้ได้ภายในไตรมาส 2/56 และจะสามารถเสนอขายหน่วยลงทุนได้ทันในปลายปีนี้

ปัจจุบัน บริษัทหนี้สินรวม 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นกู้ 1.3 หมื่นล้านบาท และหนี้สถาบันการเงิน 2 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 4% ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจะแปลงหนี้เป็นหู้นกู้ทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น