แอร์โรว์ ซินดิเคท ลุยสร้างพันธมิตรทางการค้าตลาดต่างประเทศ หวังเพิ่มสัดส่วนส่งออกเป็น 15-20% จากปัจจุบัน สัดส่วนส่งออกอยู่ที่ 12% พร้อมลดปัจจัยเสี่ยงค่าเงินดอลลาร์ โดยมุ่งเจาะลูกค้าหน้าใหม่ “ธานินทร์” มั่นใจปีนี้ปั๊มรายได้โตไม่ต่ำกว่า 30% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิจะรักษาเฉลี่ยอยู่ที่ 25-30% และ 10-12% ตามลำดับ รับอานิสงส์อุตสาหกรรมก่อสร้างที่ยังขยายตัวตามการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ และตลาดส่งออกที่ยังเติบโตดี
นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW เปิดเผยว่า จากภาพรวมของมูลค่าการก่อสร้างของไทยในปี 2556 ที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 10.5-12.9 คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท รวมทั้งการขยายตัวในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ธุรกิจก่อสร้างในประเทศพม่า ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้การใช้วัสดุก่อสร้างจากไทยเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 14.5-19 จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมดังกล่าว จึงทำให้ ARROW มุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรทางการค้าโดยเฉพาะตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ รวมทั้งการเจาะตลาดต่างประเทศ
เพื่อสร้างการเติบโตในภาคการส่งออกให้มากกว่า 15-20% จากปัจจุบัน สัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 12% และลดปัจจัยเสี่ยงด้านค่าเงินดอลลาร์ ด้วยการมุ่งเน้นการส่งออกจากประเทศใกล้เคียง เช่น พม่า ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แทนกลุ่มอาเซียน
นอกจากนี้ ในส่วนของการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นแผนบริหารจัดการน้ำ โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว 7 ปี ขณะเดียวกัน บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น อาคารมหานคร โรงพยาบาลรามาธิบดี และโครงการอื่นๆ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 1/2556 ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลดีต่อการใช้ผลิตภัณฑ์ของ ARROW แทบทั้งสิ้น จึงประเมินภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปีนี้ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัทจะรักษาอัตรากำไรสุทธิให้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-12% พร้อมกับคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะเติบโตตามเป้าที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 775.77 ล้านบาทได้
“แม้ภาพรวมการแข่งขันทางธุรกิจในปีนี้จะมีความรุนแรงมากขึ้น แต่ก็เชื่อว่าธุรกิจของบริษัทในปีนี้ที่จะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ภายในประเทศ รวมถึงการขยายตัวของประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ด้วยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมาเกือบ 20 ปี ในวงการผลิตท่อประเภทต่างๆ สำหรับงานระบบโครงการอสังหาริมทรัพย์ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ผู้ออกแบบโครงการต่างๆ เชื่อมั่นในศักยภาพด้านคุณภาพ และปริมาณการส่งมอบสินค้า เป็นสาเหตุทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และได้รับการยอมรับในการใช้ผลิตภัณฑ์”
กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท กล่าวต่อถึงประเด็นการแข่งขันของธุรกิจที่มีแนวโน้มว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้นว่า ARROW ได้เพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มผลิตภัณฑ์ท่อร้อยสายไฟชนิดกันน้ำอีกประมาณ 30% ซึ่งปัจจุบันครองตลาดอยู่เกือบทั้งหมด รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการผลิตในสายงานต่างๆ เพื่อลดต้นทุน เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นจะรักษาให้เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 25-30% และบริษัทยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานเพิ่มเติมขนาด 2,800 ตารางเมตร เพื่อรองรับเครื่องจักรที่จะขยายกำลังการผลิตท่อก่อสร้าง และท่อลมในระบบปรับอากาศ โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปี 2556 นี้
นอกจากนี้ ยังได้ขยายในส่วนของเครื่องจักรในการผลิตท่อเหล็กอ่อนร้อยสายไฟอีก 2 สายการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตอีกประมาณ 120 ตัน และเครื่องจักรในการผลิตท่อก่อสร้าง เนื่องจากมีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก