เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ ลุยสร้างโรงงานใหม่ ไตรมาส 3 ปีนี้ ด้วยงบเฉียด 3 พันล้านบาท ขยายกำลังการผลิตรับออเดอร์พุ่ง หลังโรงงานเก่าเกือบเต็มกำลัง คาดผลิตได้ครึ่งหลังปี 57 เชื่อผลงานปีนี้ยอดขายแตะ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโตในทิศทางเดียวกัน หรือโตระดับ 20-25% เหตุออเดอร์พุ่งหลังผู้ผลิตรถยนต์ใช้ PCB อื้อ ประกาศจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น แถมแจกวอร์แรนต์ 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ เตรียมขอผู้ถือหุ้น 29 เม.ย.นี้
นายปัญจะ เสนาดิสัย กรรมการ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 20-25% หรือคิดเป็นยอดขายทั้งสิ้น 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีก่อนที่มียอดขายรวมประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากออเดอร์ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และงานในมือที่มีมากอย่างเห็นได้ชัด จึงเชื่อว่าผลงานปีนี้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
ดังนั้น จากการเติบโตดังกล่าว KCE จึงต้องขยายกำลังการผลิตด้วยการลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ด้วยงบลงทุนเกือบ 3 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยสร้างเป็น 2 เฟส แบ่งเป็นกำลังการผลิตเฟสละ 4 แสนตารางฟุตต่อเดือน
“เราต้องลงทุนสร้างโรงงานใหม่ เพราะโรงงานเก่าจะเต็มกำลังการผลิตแล้ว และการลงทุนครั้งนี้เราจะไม่เพิ่มทุน แต่เราจะกู้ คาดว่าจะกู้เกือบ 100% เป็นสกุลเงินต่างประเทศ เพื่อป้องกันเรื่องค่าเงินด้วย”
โดยโรงงานแห่งใหม่คาดก่อสร้างไตรมาส 3 ปีนี้ และจะแล้วเสร็จครึ่งปีหลังของปี 2557 หลังจากกำลังการผลิตตจะเต็มกำลังในปลายปีนี้ ซึ่งหลังจากรถยนต์หันมาใช้ PCB มากขึ้นพบว่า ออเดอร์จากผู้ผลิตรถยนต์เพิ่มตาม ส่งผลให้ผู้ผลิต PCB อย่าง KCE ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไปด้วย ถือเป็นเรื่องที่ดีของบริษัท เพราะออเดอร์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนมาก ที่สำคัญ PCB นอกจากจะนิยมนำไปใช้ในส่วนประกอบผลิตรถยนต์แล้ว ยังใช้ในเครื่องเสียง และชิ้นส่วนประกอบดาวเทียมด้วย และปีนี้เชื่้อว่ากำไรของบริษัทจะเติบโตตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งจะได้รับชดเชยจากน้ำท่วมกว่า 1 พันล้านบาท อีกทั้งการรับรู้กำไร และรายได้จาก “บริษัท เคม โทรนิคส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด” เข้ามาเสริมด้วย จะหนุนให้ผลงานเติบโตอย่างเห็นได้ชัด
นายปัญจะกล่าวว่า บริษัทเน้นธุรกิจหลักมากกว่าการไปสนใจลงทุนอย่างอื่น และการไปซื้อกิจการของ “เคม โทรนิคส์” เพราะมองว่าเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัท เพราะ เคมฯ ประกอบธุรกิจโรงงานหมึกพิมพ์ลายแผงวงจรไฟฟ้า และน้ำยาเคมีใช้กระบวนการผลิตแผงวงจรไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยบริษัทลดภาระในการกำจัดของเสียจากการผลิต จากที่บริษัทดังกล่าวนำไปรีไซเคิลเป็นน้ำยาเคมีดังกล่าวไปจำหน่ายได้ และมีอัตรากำไรสุทธิสูง
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ งวด 6 เดือนหลังให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท โดยบริษัทฯ จะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในการรับเงินปันผล ในวันที่ 3 เมษายน 2556 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (ตามที่ได้มีการแก้ไข) โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 4 เมษายน 2556 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2556
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมตินำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการแจกใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือวอร์แรนต์ 115,248,942 หน่วยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ กำหนดราคาใช้สิทธิวอร์แรนต์ที่ราคา 5 บาทต่อหุ้น พร้อมเพิ่มทุน 115,567,813 หุ้น รองรับการแปลงวอร์แรนต์ด้วย เตรียมขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น 29 เมษายนนี้
นายปัญจะ เสนาดิสัย กรรมการ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 20-25% หรือคิดเป็นยอดขายทั้งสิ้น 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีก่อนที่มียอดขายรวมประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากออเดอร์ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และงานในมือที่มีมากอย่างเห็นได้ชัด จึงเชื่อว่าผลงานปีนี้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
ดังนั้น จากการเติบโตดังกล่าว KCE จึงต้องขยายกำลังการผลิตด้วยการลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ด้วยงบลงทุนเกือบ 3 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยสร้างเป็น 2 เฟส แบ่งเป็นกำลังการผลิตเฟสละ 4 แสนตารางฟุตต่อเดือน
“เราต้องลงทุนสร้างโรงงานใหม่ เพราะโรงงานเก่าจะเต็มกำลังการผลิตแล้ว และการลงทุนครั้งนี้เราจะไม่เพิ่มทุน แต่เราจะกู้ คาดว่าจะกู้เกือบ 100% เป็นสกุลเงินต่างประเทศ เพื่อป้องกันเรื่องค่าเงินด้วย”
โดยโรงงานแห่งใหม่คาดก่อสร้างไตรมาส 3 ปีนี้ และจะแล้วเสร็จครึ่งปีหลังของปี 2557 หลังจากกำลังการผลิตตจะเต็มกำลังในปลายปีนี้ ซึ่งหลังจากรถยนต์หันมาใช้ PCB มากขึ้นพบว่า ออเดอร์จากผู้ผลิตรถยนต์เพิ่มตาม ส่งผลให้ผู้ผลิต PCB อย่าง KCE ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไปด้วย ถือเป็นเรื่องที่ดีของบริษัท เพราะออเดอร์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนมาก ที่สำคัญ PCB นอกจากจะนิยมนำไปใช้ในส่วนประกอบผลิตรถยนต์แล้ว ยังใช้ในเครื่องเสียง และชิ้นส่วนประกอบดาวเทียมด้วย และปีนี้เชื่้อว่ากำไรของบริษัทจะเติบโตตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งจะได้รับชดเชยจากน้ำท่วมกว่า 1 พันล้านบาท อีกทั้งการรับรู้กำไร และรายได้จาก “บริษัท เคม โทรนิคส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด” เข้ามาเสริมด้วย จะหนุนให้ผลงานเติบโตอย่างเห็นได้ชัด
นายปัญจะกล่าวว่า บริษัทเน้นธุรกิจหลักมากกว่าการไปสนใจลงทุนอย่างอื่น และการไปซื้อกิจการของ “เคม โทรนิคส์” เพราะมองว่าเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัท เพราะ เคมฯ ประกอบธุรกิจโรงงานหมึกพิมพ์ลายแผงวงจรไฟฟ้า และน้ำยาเคมีใช้กระบวนการผลิตแผงวงจรไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยบริษัทลดภาระในการกำจัดของเสียจากการผลิต จากที่บริษัทดังกล่าวนำไปรีไซเคิลเป็นน้ำยาเคมีดังกล่าวไปจำหน่ายได้ และมีอัตรากำไรสุทธิสูง
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ งวด 6 เดือนหลังให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท โดยบริษัทฯ จะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในการรับเงินปันผล ในวันที่ 3 เมษายน 2556 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (ตามที่ได้มีการแก้ไข) โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 4 เมษายน 2556 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2556
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมตินำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการแจกใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือวอร์แรนต์ 115,248,942 หน่วยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ กำหนดราคาใช้สิทธิวอร์แรนต์ที่ราคา 5 บาทต่อหุ้น พร้อมเพิ่มทุน 115,567,813 หุ้น รองรับการแปลงวอร์แรนต์ด้วย เตรียมขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น 29 เมษายนนี้