ภาพรวมไอทีปีนี้คึกคัก รับผลบวก 3G และ Windows 8 คาดตลาด ซอร์ฟแวร์ทะลุ 5 หมื่นล้าน ตั้งเป้าต่างประเทศทะลุ 1 พันล้านใน 3 ปี
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซินเน็ค ประเทศไทย (SYNEX) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีรายใหญ่ของประเทศกล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปีนี้เติบโต 10-12% จากปี 55 ที่มีรายได้ 20,576.43 ล้านบาท และกำไรจะเติบโตประมาณ 15-20% จากที่ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 364.86 ล้านบาท เนื่องจากจะมีการเปิดใช้ 3G ที่จะเริ่มใช้ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่จะเข้ามากระตุ้นตลาดไอที ส่งผลให้ตลาดแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนเติบโตขึ้นอย่างมาก รวมไปถึงฮาร์ดแวร์ และซอร์ฟแวร์ และตลาดโน๊ตบุ๊ค ซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัท การเติบโตของตลาดไอทีทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 8-10%
โดยที่มูลค่าตลาดซอร์ฟแวร์นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ส่วนทางด้านตลาดโครงสร้างพื้นฐานของตลาดไอทีทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่มหลักของตลาดจะเน้นที่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต รองลงมาคือโน๊ตบุ๊คและพีซี ที่จะเข้ามาทำตลาดในแบรนด์ต่างๆแข่งขันกันเพิ่มมากขึ้น จะมีทั้งในส่วนที่เป็นอินเตอร์แบรนด์ และ โลคัลแบรนด์ ให้ลูกค้าได้เลือกตั้งแต่ราคาหลักพันบาท ไปจนถึงราคาหลายหมื่นบาท และเตรียมขยายสาขาในประเทศไทยเพิ่มอีกอย่างน้อย 3 แห่ง
ในส่วนของการลงทุนในประเทศพม่านั้น คาดว่าจะรับรู้รายได้ที่ประมาณ 200 ล้านบาท ตั้งเป้า Gross Margin ในปี 2556 นี้ไว้ที่ 6-7% เนื่องจากประเทศพม่าเป็นประเทศที่มีการตื่นตัวเรื่องเทคโนโลยีไอที เพื่อรองรับการการเตรียมเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนในปี 2558 และเป้นประเทศที่มีกำลังซื้อสูง โดยคู่ค้าที่สำคัญรายใหญ่ของพม่านั้นคือประเทศสิงโปร์ ที่สนับสนุนด้านเงินทุนแก่พม่า แต่ประเทศไทยความได้เปรียบในเรื่องเขตชายแดนที่ติดกับประเทศพม่า ทำให้สะดวกในเรื่องขนส่งสินค้า สินค้าที่ขายได้มากที่สุดคือโน๊ตบุ๊ค เฉลี่ยแล้วเดือนละประมาณ 2 หมื่นเครื่อง แต่สิ่งที่นักลงทุนไทยวิตกกังวลคืออัตราแนวโน้มฟองสบู่ราคาที่ดินในพม่าที่มีราคาสูงมาก ทำให้นักลงทุนไทยไม่กล้าเข้าไปลงทุน ซึ่งขณะนี้ทางรัฐบาลของพม่าเองกำลังหาทางแก้อยู่
นอกเหนือจากตลาดในประเทศพม่าแล้ว ยังมีแนวโน้มการจัดตั้งตัวแทนจำหน่ายตลอดถึงศูนย์ซ่อมบำรุง ในประเทศลาวและประเทศกัมพูชาเพิ่มเติม เนื่องจากการใช้งานอุปกรณ์ไอทีที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นอีก 200 - 300 ล้านบาท คาดหวังว่ารายได้รวมจากตลาดต่างประเทศจะแตะ 1 พันล้านบาท ใน 2-3 ปี
