ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลื้มโรดโชว์ “สิงคโปร์-มาเลย์” ประสบความสำเร็จเกินคาด ผู้ลงทุนสถาบันแห่ร่วมงานกว่า 120 ราย เผยการไปรอบนี้เป็นการนำเสนอของดีในตลาดหุ้นไทย ไม่ใช่มีแค่ บจ.ขนาดใหญ่ แต่ยังมี บจ.ขนาดกลาง-เล็ก ที่มีศักยภาพ มั่นใจ บจ.ขนาดกลาง-เล็ก จะเข้าไปอยู่ในสายตานักลงทุนต่างชาติ
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน “The SET & CIMB Thailand Corporate Day” ณ ประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย เมื่อวันที่ 12-14 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา โดยนำบริษัทจดทะเบียนไทยรวม 13 บริษัท จาก 6 กลุ่มอุตสาหกรรม เข้าร่วมให้ข้อมูลแก่ผู้จัดการกองทุนจำนวนกว่า 162 คน จาก 120 กองทุน ซึ่งตลอดการโรดโชว์ 3 วัน มีการนำเสนอข้อมูล และการประชุมกลุ่มย่อยกว่า 117 ครั้ง
สำหรับการจัดโรดโชว์ในครั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เชิญกลุ่มบริษัทจดทะเบียนขนาดกลาง และเล็กที่มีศักยภาพเข้าร่วมงานด้วย โดยบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดเล็กที่สุดในครั้งนี้มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดตั้งแต่ 7,000 ล้านบาทขึ้นไป จนถึงบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 130,000 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดโดยรวมทั้งหมดประมาณ 530,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการสนับสนุนให้บริษัทเหล่านี้ได้พบผู้ลงทุนต่างชาติโดยตรง
นอกจานี้ ยังเป็นการนำเสนอให้ผู้ลงทุนเห็นว่า ตลาดทุนไทยมีความหลากหลายของบริษัทที่มีความพร้อมในการเติบโต และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนต่างชาติได้ ไม่จำกัดเพียงหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ที่กองทุนต่างประเทศมีการลงทุนอยู่แล้วในปัจจุบัน และการที่ทำให้บริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดกลาง และเล็กเริ่มเข้าไปอยู่ในสายตาการลงทุนของผู้ลงทุนต่างชาตินั้นจะช่วยสนับสนุนให้ภาพรวมตลาดทุนไทยมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เสริมว่าบริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมการจัดงานในครั้งนี้ ทางบริษัทคำนึงถึงกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่มี business model ที่น่าสนใจ และมีศักยภาพในการเติบโต โดยรวมไปถึงกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดกลาง และเล็ก ในกลุ่มพาณิชย์ กลุ่มโรงแรม กลุ่มการเงิน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มบริการในหมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ ซึ่งตรงกับธีมจัดงานในครั้งนี้คือ “Hidden Gems”
นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยว่า ผู้ลงทุนชาวต่างชาติให้การตอบรับบริษัทอย่างดี โดยได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับการเติบโตของบริษัท แนวทางการขยายธุรกิจ และนโยบายของบริษัทที่จะเติบโตไปพร้อมๆ กับการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทย ในฐานะเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโลกได้ ซึ่งการมานำเสนอข้อมูลของบริษัท เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูล และมีความมั่นใจในการลงทุน ถือเป็นกิจกรรมที่บริษัทดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับบริษัทที่ร่วมให้ข้อมูลในครั้งนี้รวม 13 บริษัท ได้แก่ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) บมจ.ช.การช่าง (CK) บมจ.ไทยคม (THCOM) บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC ) บมจ.คาร์มาร์ท (KAMART) บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) บมจ.อสมท (MCOT) และ บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) รวมกัน 529,863 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 13 มี.ค.2556)