xs
xsm
sm
md
lg

“เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” ปรับคำนวณเป้าดัชนีใหม่ เลิกสนใจค่า P/E ป้องกันโดนสภาพคล่องหลอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ค่า P/E เริ่มไม่น่าเชื่อถือ นักวิเคราะห์หวั่นโดนสภาพคล่องหลอก ล่าสุด “บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” ปรับวิธีคำนวณเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยใหม่ เน้นปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก พร้อมเพิ่มแนวโน้มในอีก 12 เดือนข้างหน้าเข้าเสริม คาดได้เห็นภายในมีนาคมนี้ ยอมรับสูงกว่าเป้าหมายเดิม 1,550 จุดแล้ว พร้อมประเมินข่าวลือเฟดยุติ QE จะทำให้หุ้นผันผวนตลอดปี

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้างานวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เปลี่นแปลงวิธีคำนวณเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยใหม่ เนื่องจากว่าจากสภาพคล่องที่เข้ามาในตลาดจำนวนมาก มีผลต่อค่า P/E ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ในระดับ 13-14 เท่า ซึ่งไม่สะท้อนมูลค่าหุ้นรายตัวที่แท้จริง อีกทั้งราคาหุ้นบางตัวได้สูงเกินกว่าที่ประเมิน ดังนั้น หากวิธีคำนวณยังใช้แบบเดิมอยู่อาจไม่เหมาะสมเท่าใด เพราะปัจจุบัน ดัชนีปรับตัวขึ้นมาอยู่เกินเป้าหมายเดิมของบริษัทที่ 1,550 จุดแล้ว โดยน่าจะสรุปได้ในช่วงภายในเดือนมีนาคมนี้

“หากเรายังใช้ค่า P/E มาคำนวณด้วย อาจถูกหลอกด้วยสภาพคล่องได้ เราจึงหันมันเน้นในเรื่องปัจจัยพื้นฐานเป็นตัวตั้ง ซึ่งตอนนี้ก็ครอบคลุมถึง 80% ของมาร์เกตแคป เพราะเรามีการเพิ่มนักวิเคราะห์เข้ามาดำเนินงาน ซึ่งดัชนีหุ้นเดิมเราตั้งเป้าไว้ที่ 1,550 จุด ก็จะมีการปรับเพิ่มหลังจากที่เราได้ทยอยปรับประมาณการของบริษัทจดทะเบียนไปหลายตัวแล้ว อีกทั้งการคำนวณใหม่จะมีการประเมินเป้าหมายล่วงหน้าไปอีก 12 เดือนจากนี้ด้วย เพราะราคาหุ้นบางตัวได้ปรับตัวขึ้นไปเพื่อสะท้อนต่อเรื่องดังกล่าวไปบ้างแล้ว”

สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์คือ บางกลุ่มเพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย ขณะที่บางกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยรวม EPS ยังอยู่ที่ระดับ 108-109 ส่วนอัตราการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนยังอยู่ที่ 20%

ส่วนการปรับตัวขึ้นของดัชนีดาวน์โจนส์ สหรัฐฯ มองว่า แม้สหรัฐฯ จะต้องตัดลดงบประมาณแบบอัตโนมัติ 8.5 หมื่นล้านเหรียญ แต่ด้วยคำยืนยันของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ย้ำว่า ยังคงใช้มาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณหรือ QE ต่อไป ก็สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนได้ในระดับหนึ่งจนเกิดแรงซื้อเข้ามา

อย่างไรก็ตาม คาดว่าเรื่องการยุติใช้มาตรการ QE ของสหรัฐฯ จะถูกนำมาพูดถึงตลอดปีนี้ ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนจากข่าวดังกล่าว ที่เชื่อว่าจะเป็นกระแสออกมาเรื่อยๆ เพราะโดยรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพียงแค่เริ่มฟื้นตัว หรือเริ่มดีขึ้น ยังไม่ใช่การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแรง
กำลังโหลดความคิดเห็น