เอเอฟพี - ความกังวลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนและความคาดหมายว่าสหรัฐฯ อาจประสบภาวะชะลอตัว ฉุดราคาน้ำมันวานนี้ (4) ปิดในแดนลบ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นว่าเฟดจะคงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกก็ช่วยประครองให้วอลล์สตรีทและทองคำขยับขึ้นได้เล็กน้อย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 56 เซ็นต์ ปิดที่ 90.12 ดอลลาร์ หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายขยับลงไปแตะ 89.33 ดอลลลาร์ ต่ำว่าระดับ 90 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกของปี ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 31 เซ็นต์ ปืดที่ 110.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมีขึ้นจากแรงฉุดของข้อมูลภาคการผลิตและบริการอันอ่อนแอในจีน ชาติผู้บริโภครายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ก่อความกังวลทางอุปสงค์
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังมีปัจจัยลบจากคำเตือนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่บอกว่ามาตรการลดงบประมาณรายจ่ายแบบเหมารวมอย่างอัตโนมัติซึ่งมีผลบังค้บใช้ตั้งแต่วันศุกร์ (1) อาจกัดเซาะการเติบโตทางเศรษฐของอเมริการ้อยละ 0.5
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (4) เมินตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนและมาตรการลดงบประมาณรายจ่ายแบบเหมารวมอย่างอัตโนมัติของอเมริกา และสามารถปิดบวกได้เล็กน้อย จากท่าทีของเฟดถึงแนวโน้มเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 38.09 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,127.75 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 12.29 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,182.03 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 7.00 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,525.20 จุด
การขยับขึ้นของวอลล์สตรีทวานนี้ (4) มีขึ้นหลังจากมาตรการลดงบประมาณรายจ่ายแบบเหมารวมอย่างอัตโนมัติของสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้ในวันศุกร์ (1) หลังจากสภาคองเกรสล้มเหลวในการเจรจาตกลงประนีประนอม
“แน่นอนว่ามาตรการลดงบประมาณรายจ่ายแบบเหมารวมอย่างอัตโนมัติบังคับใช้แล้ว แต่มันคงใช้เวลาสักพักถึงจะเห็นผลกระทบต่อข้อมูลทางเศรษฐกิจ” ปีเตอร์ คาร์ดิลโล จากร็อคเวลล์ โกลบอล แคปิตอลกล่าว
ขณะที่เหล่านักวิเคราะห์คนอื่นๆ เสริมว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แรงขับเคลื่อนจากความเห็นของ เจเนต เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่บอกว่าเฟดมีความตั้งใจที่จะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินอย่างยิ่งต่อไปจนกว่าเศรฐกิจจะฟื้นตัวอย่างมั่นคง
ปัจจัยนี้เองที่ผลักให้ราคาทองคำวานนี้ (4) กระเตื้องขึ้นมาปิดบวกได้เล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 0.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,752.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
