xs
xsm
sm
md
lg

TTW วางเป้าโตปีละ 15% วางงบ 2.3 หมื่นล. ขยายธุรกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“น้ำประปาไทย” วางเป้าโตเฉลี่ย 15% ต่อเนื่องตามแผน 5 ปี ลงทุน 23,800 ล้านบาท ผ่านการขอกู้แบงก์ และออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุน ยืนยันไม่มีแผนเพิ่มทุนกดราคาหุ้นไดรูท ผู้บริหารระบุสนใจเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ โดยในพม่าเล็งเทกโอเวอร์กิจการน้ำประปามาขยายกำลังผลิต และปรับปรุงประสิทธิภาพ

    นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เปิดเผยว่า บริษัทได้วางงบลงทุนในระยะ 5 ปี (2556-2560) ไว้ที่ 23,800 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วน 40% ลงทุนในธุรกิจผลิตน้ำประปา 30% ในธุรกิจพลังงาน และอีก 30% ในธุรกิจจัดการสิ่งแวดล้อม  ซึ่งจะทำให้ในปี 2560 บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 10,000 ล้านบาท และจะเป็นการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 15% โดยเงินลงทุนจะมาจากการกู้สถาบัน และการออกหุ้นกู้ในสัดส่วนที่เท่ากัน

    “ในปีนี้เรายังเติบโต 2 หลัก แม้จะเป็นปีแรกที่เราเสียภาษีเต็ม หลังจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยยื่นของบีโอไอหมดลงแล้ว โดยเราวางงบประมาณไว้ประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนสร้างโรงงานผลิตน้ำประปาแห่งใหม่ที่ จ.ปทุมธานี กำลังการผลิต 1 แสนคิวต่อวัน รับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเรารอการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) อนุมัติแผนขยายกำลังการผลิตน้ำ จาก 3.7 แสนคิวต่อวัน เป็น 4.5 แสนคิว พร้อมทั้งเจรจาซื้อกิจการโรงงานผลิตน้ำประปากำลังการผลิต 20,000 คิวต่อวัน รวมถึงธุรกิจพลังงาน และสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน ทางบริษัทยังรอข้อสรุปการขอเพิ่มปริมาณกำลังการผลิตน้ำประปาที่ จ.สมุทรสาคร-นครปฐม จาก กปภ.ด้วย เพื่อดำเนินการต่อไป แต่เรายืนยันไม่มีแผนจะเพิ่มทุนซึ่งจะมีผลให้ราคาหุ้นไดรูทลงแน่นอน”

    ในด้านพลังงานทางเลือก TTW สนใจเข้ามาทำธุรกิจพลังงานลม ในการผลิตไฟฟ้า 180 เมกะวัตต์  ตอนนั้นอยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลม ซึ่งดำเนินงานมาได้ร่วม 2 ปีแล้ว เช่นเดียวกับการเดินหน้าในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยภายในกลางปีนี้ หากยังไม่มีข้อสรุปบริษัทคงต้องรอใบอนุญาตใหม่ รวมถึงมีแผนทำธุรกิจพลังงานจากขยะ 1 โครงการด้วย

    สำหรับการขยายฐานการลงทุนในต่างประเทศ ยังเป็นธุรกิจที่ให้ความสนใจ ทั้งการลงทุนในเวียดนาม และลาว ซึ่งอยู่ในระหว่างการศึกษา ส่วนในพม่า บริษัทมีความสนใจเข้าซื้อกิจการน้ำประปาเพื่อนำมาดำเนินธุรกิจต่อ รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพ และกำลังการผลิตเพราะเชื่อว่าจะช่วยสร้างรายได้กลับคืนมาได้เร็วว่าการลงทุนจัดตั้งใหม่ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ยังต้องขึ้นอยู่กับการอนุญาตของรัฐบาลพม่า เพราะจากการศึกษาพบว่า พม่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการพัฒนาสูง และความต้องการใช้น้ำประปาก็ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก

    ส่วนการที่ บมจ.ช.การช่าง ผู้ถือหุ้นใหญ่ ขายหุ้นของบริษัท 11% ให้แก่บริษัทในเครืออย่าง บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) ยืนยันว่าไม่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด แม้ CK จะลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทออกไป เช่นเดียวกับการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ TTW ของนายสมโพธิ ศรีภูมิ  ที่ยังดำเนินงานตามปกติ

    ขณะที่การลงทุนใน CK power  ที่ TTW ถือหุ้น 25%  มีแผนจะเข้าจะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้จะมีการนำหุ้นใหม่ออกมาขาย ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนในการถือครองหุ้น CK power ของบริษัทลดลง นายสมโพธิ กล่าวยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวจะมีผลให้สัดส่วนการถือครองหุ้น CK power ของบริษัทลดลงเหลือ 25% จากเดิม 30% แต่จะไม่ลดลงไปจากนี้ เพราะเป็นการลงทุนในระยะยาว โดยในปีนี้ หาก CK power  เข้าจดทะเบียนสำเร็จ จะทำให้ TTW สามารถรับรู้กำไรพิเศษจากการขายหุ้น CKP ได้บางส่วน

    “เราเข้าลงทุนใน CK power  ตั้งแต่ปีที่แล้ว มีรายได้จากการนำเงินงานที่เรารับรู้ประมาณ 150 ล้านบาท แต่ธุรกิจสาธารณูปโภคมีการลงทุนที่สูง ดังนั้น ในช่วงแรกจะมีค่าใช้จ่ายและต้นทุนเยอะ แต่ต่อไปมันจะดีขึ้น สร้างรรายได้ให้เราได้ในระดับที่น่าพอใจ ปีนี้เรายังมีรายได้จากธุรกิจหลักคือน้ำประปาประมาณ 93% อีก 7% ยังมาจากธุรกิจอื่นๆ”

    ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติงบฯ การเงินรวมสอบทานของปี 2555 บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 5,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% จากปี 2554 มีกำไรสุทธิ 2,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6% จากปี 2554 ส่วนไตรมาส 4 ปี 2555 บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1,320 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่มีกำไรสุทธิ 560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเห็นสมควรเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 มี.ค.2556 ขออนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.52 บาท โดยจ่ายปันผลแล้วเมื่อ ส.ค.ปี 2555 ในอัตรา 0.22 บาท และจ่ายอีก 0.30 บาทในวันที่ 29 มี.ค.นี้ ส่วนปี 2556 บริษัทยังคงตั้งเป้าเพิ่มยอดจ่ายน้ำให้โตขึ้น 7% เป็นอย่างน้อย

    บล.เอเซีย พลัส ประเมินแนวโน้มธุรกิจของ TTW ว่า กำไรงวด 4Q55 เท่ากับ 560 ล้านบาทตามคาด โดยเพิ่มขึ้น 12% YoY แต่ลดลง 11% QoQ ผลจากงวด 3Q55 มีบันทึกรายได้พิเศษจากภาษีซึ่งจ่ายเกินไปของ PTW ตั้งแต่ปี 2551 61.6 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม Norm profit ยังทรงตัว QoQ จากรายได้และปริมาณจำหน่ายน้ำประปาที่ใกล้เคียงงวด 3Q55 ขณะที่ Gross margin ลดลงมากกว่าคาดจาก  69.1% งวด 3Q55 เหลือ 67.6% จากต้นทุนค่าไฟ (คิดเป็น 33% ของต้นทุนรวม) เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นค่า FT ราว 0.18 บาท/หน่วย เต็มไตรมาสในงวด 4Q55 อย่างไรก็ตาม สามารถชดเชยบางส่วนได้จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในงวด 4Q55 ที่ค่อนข้างทรงตัว และทำได้ดีกว่าคาด และเป็นผลให้ Norm profit margin ยังค่อนข้างทรงตัว QoQ ที่ระดับราว 45% และทำให้กำไรรวมปี 2555 อยู่ที่ 2,421 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6% YoY น้อยกว่าประมาณการราว 2%

ขณะเดียวกัน ภายใต้เป้าหมายระยะ 5 ปีจากนี้ที่ค่อนข้างท้าทาย โดย TTW จะเพิ่มรายได้จากธุรกิจพลังงานทางเลือกเป็น 35% ของรายได้รวม จากปัจจุบันที่รายได้หลักยังเป็นธุรกิจน้ำประปา (งบลงทุนทั้งสิ้น 2.38 หมื่นล้านบาท) โดยปี 2556 จะเห็นความคืบหน้า 3 โครงการในงวด 1H56 ภายใต้งบลงทุนราว 4-5 พันล้านบาท คือ 1) โครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ (ขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์) 2) การผลิตไฟฟ้าจากขยะ (6 เมกะวัตต์) และ 3) โครงการการบริหารจัดการน้ำในนิคมอุตสาหกรรม (เหมือนที่ดำเนินการในนิคมบางปะอิน และมีขนาดใกล้เคียงกัน) โดยเชื่อว่าโครงการ 1) และ 2) เป็นโครงการใหม่ และต้องใช้เวลาในการก่อสร้างราว 8-9 เดือน

    ขณะที่โครงการ 3) อาจจะเป็นการเข้าร่วมถือหุ้นกับพันธมิตรที่ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งจะเพิ่มฐานรายได้แก่ TTW ได้ทันที และคาดจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นมากสุดในปี 2556 ราว 40 ล้านบาท คิดเป็น EPS 0.01 บาท หรือมูลค่าส่วนเพิ่มราว 0.15 บาท/หุ้น ขณะที่ปี 2557 จะสามารถรับรู้รายได้จากทั้ง 3 โครงการดังกล่าวเต็มปี โดยคาดว่าจะเพิ่มฐานกำไรขึ้นอีกมากสุด 160 ล้านบาท คิดเป็น EPS 0.04 บาท หรือมูลค่าส่วนเพิ่มราว 0.6 บาท/หุ้น

    นอกจากนี้ บริษัทร่วม CK power ที่แผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ราว 2Q56 ซึ่ง TTW มีแนวโน้มจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงจากปัจจุบันที่ 30% เหลือไม่ต่ำกว่า 25% และจะทำให้ TTW สามารถรับรู้กำไรพิเศษจากการขายหุ้น CKP ซึ่ง TTW มีต้นทุนเท่ากับราคาพาร์ (10 บาท) ซึ่งเบื้องต้น ฝ่ายวิจัยกำหนดราคาขาย CKP ราว 15 บาท/หุ้น อิง PER 15 เท่า จะทำให้ TTW รับรู้กำไรจากการขายหุ้น CKP 5 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นกำไรที่จะได้รับมากสุดราว 230 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น