โบรกฯ เผย “ซีพี” บิ๊กล็อตหุ้น “เซเว่น-อีเลฟเว่น” มูลค่า 8.7 พันล้าน ราคาเฉลี่ย 47.00 บาท/หุ้น คาดทำรายการผ่าน “ยูโอบี” โดยเป็นการขายทำกำไรเพื่อนำเงินไปลงทุน หลังจากที่ราคาหุ้นในกระดานปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดันค่าพีอีเรโชเพิ่มเป็น 30 เท่า “เมย์แบงก์กิมเอ็ง” เผย “มุมมอง” ยังเป็นบวก ผลประกอบการแข็งแกร่งเกินคาด
มีรายงานข่าวการซื้อขายรายการใหญ่ (บิ๊กล็อต) หุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กระดานต่างประเทศ หรือ CPALL-F ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีก เซเว่น-อีเลฟเว่น คิดเป็นมูลค่า 8,750.14 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 47.00 บาท และมีการทำบิ๊กล็อตหุ้น CPALL กระดานในประเทศมูลค่า 670.3 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 47.08 บาท ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานปรับตัวลดลงทันทีหลังเปิดตลาด และมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนลงไปลึกที่ราคา 47.50 บาท ก่อนที่จะปิดที่ 47.75 บาทลดลง 2 บาท หรือลดลง 4.02%
ด้านวงการซื้อขายหลักทรัพย์มองว่า รายการซื้อขายหุ้นในรายการบิ๊กล็อต เป็นการขายหุ้นของซีพีกรุ๊ป ที่ทำรายการผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูบีเอส ซึ่งคาดว่าเป็นการขายทำกำไรเพื่อนำเงินไปลงทุน หลังจากที่ราคาหุ้นในกระดานปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนค่าพีอีเรโชเพิ่มเป็น 30 เท่า
นักวิเคราะห์จาก บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ยืนยันว่า ฝ่ายวิเคราะห์ของเมย์แบงก์ฯ ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นบริษัท ซีพีออลล์ หรือ CPALL โดยให้ราคาเป้าหมายปีนี้ที่หุ้นละ 53 บาท เนื่องจากผลประกอบการในไตรมาส 4/2555 ที่ประกาศออกมานั้นแข็งแกร่งเกินคาด โดยมีกำไรสุทธิ 2.76 พันล้านบาท เติบโตถึง 75% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าคาด ยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาสูงถึง 97,978 บาท/วัน ยอดขายต่อสาขาเดิม เติบโตสูงถึง 23% จากโปรโมชันส่งเสริมการขายที่ได้รับการตอบรับดี เทศกาลกินเจ ขณะที่ฐานต่ำในช่วงไตรมาส 4/2554 อีกทั้งมีจำนวนร้านเซเว่นฯ เพิ่มขึ้น 546 สาขา ในปี 2555 ทำให้จำนวนสาขาเพิ่มเป็น 6,822 สาขา อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นจาก 24.3% ในไตรมาส 4/2554 เป็น 25.5% จากการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง
โดยรวมแล้วกำไรสุทธิปี 2555 ขยายตัว 38% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 11,023 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.90 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 1.8% โดยจะขึ้นเครื่องหมายได้สิทธิรับปันผล (XD) ในวันที่ 2 พ.ค.นี้
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้ คาดว่ากำไรของซีพีออลล์ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการขยายสาขา 540 สาขาในปีนี้ อัตรากำไรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนสินค้าประเภทอาหารพร้อมรับประทาน ฐานะการเงินยังคงแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ เม็ดเงินลงทุน 6,000-6,500 ล้านบาท จะนำมาจากกระแสเงินจากการดำเนินงาน
