ยังไม่ชี้ขาดขาลง
ตลาดหุ้นวันนี้เจอมรสุมจากปัจจัยภายนอก ทำให้การทำลายสถิติใหม่ต้องสะดุดลง ดัชนีรูดลงแรง แต่ก็ยังไม่ใช่สัญญาณการปรับตัวแรง ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ไหวหวั่น และเชื่อว่าจะเป็นการปรับฐานระยะสั้น หลังจากนั้นจะดีดตัวกลับ จึงเข้ามาซื้อกันคึกคัก และเมื่อปิดตลาดกลุ่มที่ขายหนักก็มีเพียงบัญชีบริษัทหลักทรัพย์เท่านั้น จึงมีลุ้นที่จะฟื้นตัวกลับได้ เพียงแต่สถานการณ์ภายนอกยังไมค่อยดีตลาดหุ้นต่างประเทศยังทรุด ราคาน้ำมันยังอ่อนตัวลงต่อซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,528.74 จุด ลดลง 17.90 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 60,365 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 715 ล้านบาท
การทรุดตัวของดัชนีเกิดจากตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐฯ เมื่อวันพุธปรับฐานแรง เพราะความกังวลในแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งอาจพลิกผัน โดยอาจไม่มีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในตลาดการเงินทั่วโลก หุ้นทั่วโลกจึงแดงฉานส่งผลกระทบจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นไทย แต่กลุ่มที่แสดงปฏิกิริยากังวลมากที่สุดคือ พอร์ตโบรกเกอร์ ซึ่งเทขายรายเดียวกว่า 2,000 ล้านบาท
ถ้าดูจากแรงขายจากพอร์ตโบรกเอร์อาจไม่น่ากลัว แต่ก็ต้องไม่ประมาท หรือมองโลกในแง่ดีเกินไป เพราะตลาดหุ้นต่างประเทศก็ยังไม่สดใส ราคาน้ำมันดิ่งลงต่อ ซึ่งอาจฉุดให้กลุ่มพลังงานลงตาม นอกจากนั้น ราคาหุ้นไทยก็ไม่ต่ำนักทุกคนพร้อมจะขายหากมีสถานการณ์ไม่ไว้วางใจ เพราะขายราคานี้ยังมีกำไร หรือขาดทุนเพียงเล็กน้อย
ความแปรปรวนที่เกิดขึ้นจะถือเป็นโอกาสในการช้อนซื้อไม่ได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่นิ่ง แต่ก็ไม่ควรตื่นตระหนกเกินเหตุ เพราะถ้าไม่มีข่าวร้ายซ้ำเติมก็มีสิทธิที่หุ้นจะกลับมาตั้งหลักเหมือนกัน
ตลาดหุ้นวันนี้เจอมรสุมจากปัจจัยภายนอก ทำให้การทำลายสถิติใหม่ต้องสะดุดลง ดัชนีรูดลงแรง แต่ก็ยังไม่ใช่สัญญาณการปรับตัวแรง ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ไหวหวั่น และเชื่อว่าจะเป็นการปรับฐานระยะสั้น หลังจากนั้นจะดีดตัวกลับ จึงเข้ามาซื้อกันคึกคัก และเมื่อปิดตลาดกลุ่มที่ขายหนักก็มีเพียงบัญชีบริษัทหลักทรัพย์เท่านั้น จึงมีลุ้นที่จะฟื้นตัวกลับได้ เพียงแต่สถานการณ์ภายนอกยังไมค่อยดีตลาดหุ้นต่างประเทศยังทรุด ราคาน้ำมันยังอ่อนตัวลงต่อซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,528.74 จุด ลดลง 17.90 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 60,365 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 715 ล้านบาท
การทรุดตัวของดัชนีเกิดจากตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐฯ เมื่อวันพุธปรับฐานแรง เพราะความกังวลในแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งอาจพลิกผัน โดยอาจไม่มีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในตลาดการเงินทั่วโลก หุ้นทั่วโลกจึงแดงฉานส่งผลกระทบจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นไทย แต่กลุ่มที่แสดงปฏิกิริยากังวลมากที่สุดคือ พอร์ตโบรกเกอร์ ซึ่งเทขายรายเดียวกว่า 2,000 ล้านบาท
ถ้าดูจากแรงขายจากพอร์ตโบรกเอร์อาจไม่น่ากลัว แต่ก็ต้องไม่ประมาท หรือมองโลกในแง่ดีเกินไป เพราะตลาดหุ้นต่างประเทศก็ยังไม่สดใส ราคาน้ำมันดิ่งลงต่อ ซึ่งอาจฉุดให้กลุ่มพลังงานลงตาม นอกจากนั้น ราคาหุ้นไทยก็ไม่ต่ำนักทุกคนพร้อมจะขายหากมีสถานการณ์ไม่ไว้วางใจ เพราะขายราคานี้ยังมีกำไร หรือขาดทุนเพียงเล็กน้อย
ความแปรปรวนที่เกิดขึ้นจะถือเป็นโอกาสในการช้อนซื้อไม่ได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่นิ่ง แต่ก็ไม่ควรตื่นตระหนกเกินเหตุ เพราะถ้าไม่มีข่าวร้ายซ้ำเติมก็มีสิทธิที่หุ้นจะกลับมาตั้งหลักเหมือนกัน