“คลัง” ล้มแผนขอเงินเพิ่มทำโครงการจำนำ “ธ.ก.ส.” กระทุ้งพาณิชย์จ่ายเงินค่าข้าว

“คลัง” เลิกแผนขอเงินเพิ่มทำโครงการจำนำข้าว ระบุ สาเหตุที่ล้มเลิกเนื่องจากจะเป็นเหตุให้รัฐบาลถูกฝ่ายค้าน และนักวิชาการโจมตีว่าโครงการนี้จะสร้างหนี้สาธารณะให้สูงขึ้น เตรียมหันไปกดดันพาณิชย์ควรเร่งจ่ายเงินค่าข้าว

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการดูแลสภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยยืนยันว่า กระทรวงการคลังไม่มีแผนที่จะเพิ่มสภาพคล่อง ธ.ก.ส. เพื่อไปใช้รับจำนำข้าวนาปรังปี 2555 โดยเงินที่ใช้รับจำนำข้าวยังใช้เงินกู้ที่คลังจะค้ำประกันให้ ธ.ก.ส. ไม่เกิน 4.1 แสนล้านบาท และเป็นเงินสภาพคล่องของ ธ.ก.ส. จำนวน 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งต้องมีการบริหารจัดการให้ใช้อยู่ในวงเงินดังกล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังตัดสินใจถอนแผนการขอขยายสภาพคล่องของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อใช้รับจำนำข้าวจาก 9 หมื่นล้านบาท เป็น 1.5 แสนล้านบาท ที่เตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแล้ว

สำหรับสาเหตุที่ล้มเลิก เนื่องจากจะเป็นเหตุให้รัฐบาลถูกฝ่ายค้าน และนักวิชาการโจมตีว่า โครงการนี้จะสร้างหนี้สาธารณะให้สูงขึ้น ทั้งที่ ธ.ก.ส.ยืนยันว่า มีสภาพคล่องให้โครงการรับจำนำข้าวเพียง 2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มให้เป็น 1.5 แสนล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังต้องการได้

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า แผนหาเงินที่ปรับใหม่ ขอให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การสินค้าเกษตร (อ.ต.ก.) ซึ่งเป็นผู้ขายข้าวให้กระทรวงพาณิชย์ นำเงินที่ขายข้าวได้นำส่งคืนให้ ธ.ก.ส. ภายใน 15 วันหลังจากที่รับเงิน ตามที่ ครม.เห็นชอบไว้ เพื่อที่จะได้มีเงินไปรับจำนำข้าวนาปรังรอบใหม่ที่จะเริ่มในเดือน เม.ย.นี้ โดยคาดว่าต้องรับใช้เงินประมาณ 1.2-1.5 แสนล้านบาท เพื่อจำนำข้าว 10-11 ล้านตัน

ทั้งนี้ หาก อคส. และ อ.ต.ก. ใช้เงินเกินกำหนดเวลา คลังจะคิดดอกเบี้ย เพราะพบว่ามีเงินค่าข้าวหลายหมื่นล้านบาทที่ทั้งสององค์กรรับชำระมาแล้วแต่ไม่ยอมส่งให้คลัง ทำให้เงินหมุนเวียนการรับจำนำข้าวมีปัญหาไม่พอ ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้รับทราบปัญหา และรับปากจะดำเนินการเรื่องนี้ให้แล้ว

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ปีนี้จะขายได้ 2.6 แสนล้านบาท ซึ่งหากทำได้จริงก็ไม่น่าจะทำให้เงินที่มารับจำนำข้าวของรัฐบาลรอบต่อๆ ไปมีปัญหา