ผลิตภัณฑ์ตราเพชร งวดสิ้นปี 55 กำไร 546 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.64% เนื่องจากกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น แถมมีกำไรจากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งานอีก 43.97 ล้านบาท รวมทั้งอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ลดลง
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT แจ้งผลงานงวดสิ้นปี 55 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 545.91 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 460.13 ล้านบาท บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 85.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.64% เนื่องจากกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น มีกำไรจากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งานจำนวน 43.97 ล้านบาท (หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล) และอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ลดลงจากร้อยละ 30% เป็น 23%
โดยงวดนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2555 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.65 % ประกอบด้วย รายได้จากการขายสินค้า จำนวน 3,631.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 148.65 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 4.27% จากการขายสินค้ากระเบื้องคอนกรีต รุ่นอดามัส และสินค้าทดแทนไม้ ประเภทไม้ระแนง และไม้รั้วที่เพิ่มสูงขึ้น รายได้จากการให้บริการ 252.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 41.81 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.89% เนื่องจากรายได้ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 22.42 ล้านบาท และรายได้ค่าบริการอื่นเพิ่มขึ้น 19.39 ล้านบาท กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ถาร 58.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 54.63 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรจากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน 57.10 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทฯ มีต้นทุนจากการขายสินค้า และการให้บริการในปี 2555 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.46 5 ประกอบด้วย ต้นทุนจากการขายสินค้า จำนวน 2,397.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 120.82 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.31% เนื่องจากปริมาณการขายสินค้าเพิ่มขึ้น 5% และต้นทุนจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น ต้นทุนจากการให้บริการ จำนวน 313.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 43.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.23%เนื่องจากการขายสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น โดยมีต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 27.89 ล้านบาท และต้นทุนค่าบริการอื่นเพิ่มขึ้น 15.81 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นในปี 2555 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.82% ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการขาย จำนวน 143.51 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 15.32 ล้านบาท หรือลดลง 9.65% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดและส่งเสริมการขายลดลง 14.64 ล้านบาท และการตั้งหนี้สงสัยจะสูญลดลง 2.01 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 338.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 39.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.28% เนื่องจากมีเงินเดือน และสวัสดิการพนักงานเพิ่มขึ้น 18.27 ล้านบาท (รวมการปรับค่าแรงขั้นต่ำพนักงาน)
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT แจ้งผลงานงวดสิ้นปี 55 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 545.91 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 460.13 ล้านบาท บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 85.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.64% เนื่องจากกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น มีกำไรจากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งานจำนวน 43.97 ล้านบาท (หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล) และอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ลดลงจากร้อยละ 30% เป็น 23%
โดยงวดนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมในปี 2555 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.65 % ประกอบด้วย รายได้จากการขายสินค้า จำนวน 3,631.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 148.65 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 4.27% จากการขายสินค้ากระเบื้องคอนกรีต รุ่นอดามัส และสินค้าทดแทนไม้ ประเภทไม้ระแนง และไม้รั้วที่เพิ่มสูงขึ้น รายได้จากการให้บริการ 252.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 41.81 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.89% เนื่องจากรายได้ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 22.42 ล้านบาท และรายได้ค่าบริการอื่นเพิ่มขึ้น 19.39 ล้านบาท กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ถาร 58.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 54.63 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรจากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน 57.10 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทฯ มีต้นทุนจากการขายสินค้า และการให้บริการในปี 2555 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.46 5 ประกอบด้วย ต้นทุนจากการขายสินค้า จำนวน 2,397.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 120.82 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.31% เนื่องจากปริมาณการขายสินค้าเพิ่มขึ้น 5% และต้นทุนจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น ต้นทุนจากการให้บริการ จำนวน 313.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 43.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.23%เนื่องจากการขายสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น โดยมีต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 27.89 ล้านบาท และต้นทุนค่าบริการอื่นเพิ่มขึ้น 15.81 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นในปี 2555 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.82% ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการขาย จำนวน 143.51 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 15.32 ล้านบาท หรือลดลง 9.65% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดและส่งเสริมการขายลดลง 14.64 ล้านบาท และการตั้งหนี้สงสัยจะสูญลดลง 2.01 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 338.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 39.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.28% เนื่องจากมีเงินเดือน และสวัสดิการพนักงานเพิ่มขึ้น 18.27 ล้านบาท (รวมการปรับค่าแรงขั้นต่ำพนักงาน)