เหงาต่ออีกวัน
ตลาดหุ้นเปิดรับสัปดาห์ใหม่ไม่สดใสมากนัก เพราะนักลงทุนอยู่ระหว่างรอคอยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินวันพุธนี้ รอประเมินผลว่า การลด หรือไม่ลดดอกเบี้ยจะส่งผลอย่างไรต่อตลาด ขณะนี้ปัจจัยอื่นเงียบสงบ ทำให้ลงทุนอย่างระมัดระวัง และมีลักษณะคุมเชิงกันมากกว่า
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,523.29 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,541 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 84 ล้านบาท
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คืนวันจันทร์ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากไม่มีปัจจัยชี้นำเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ส่วนตลาดหุ้นไทยก็มีเพียงประเด็นดอกเบี้ยที่จะชี้นำระยะสั้นเท่านั้น แต่ก็ไม่มีสัญญาณความผันผวนรุนแรงเกิดขึ้น และดูเหมือนตลาดพร้อมจะวิ่งต่อด้วยซ้ำ หากมีข่าวดีเข้ามากระตุ้น เพราะนักลงทุนพร้อมจะลุยตลอดเวลา
ส่วนความผันผวนยังเกิดกับหุ้นร้อนตัวเล็ก ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้มาตรการคุมเข้มมากขึ้น มีหุ้นที่ติดบัญชีต้องซื้อขายด้วยเงินสดนับสิบตัว และมีการขยายเวลาการซื้อขายด้วยเงินสดเป็น 6 สัปดาห์ ทำให้ราคาหุ้นที่ถูกขึ้นบัญชีซื้อขายด้วยเงินสดส่วนใหญ่อ่อนตัวลง แต่ก็มีบางตัวที่หัวแข็ง และราคาสวนมาตรการคุมเข้มของตลาดหลักทรัพย์ฯ
ตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ไม่น่ามีอะไรแตกต่างจากวันนี้ เพราะเป็นช่วงเวลารอคอยปัจจัยชี้นำ โดยเฉพาะการพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยซึ่งจะรู้ผลบ่ายวันพุธ เมื่อรู้ผลทิศทางตลาดจะมีความชัดเจนขึ้น นักลงทุนจึงควรรอมากกว่าลุย
ตลาดหุ้นเปิดรับสัปดาห์ใหม่ไม่สดใสมากนัก เพราะนักลงทุนอยู่ระหว่างรอคอยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินวันพุธนี้ รอประเมินผลว่า การลด หรือไม่ลดดอกเบี้ยจะส่งผลอย่างไรต่อตลาด ขณะนี้ปัจจัยอื่นเงียบสงบ ทำให้ลงทุนอย่างระมัดระวัง และมีลักษณะคุมเชิงกันมากกว่า
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,523.29 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,541 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 84 ล้านบาท
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คืนวันจันทร์ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากไม่มีปัจจัยชี้นำเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ส่วนตลาดหุ้นไทยก็มีเพียงประเด็นดอกเบี้ยที่จะชี้นำระยะสั้นเท่านั้น แต่ก็ไม่มีสัญญาณความผันผวนรุนแรงเกิดขึ้น และดูเหมือนตลาดพร้อมจะวิ่งต่อด้วยซ้ำ หากมีข่าวดีเข้ามากระตุ้น เพราะนักลงทุนพร้อมจะลุยตลอดเวลา
ส่วนความผันผวนยังเกิดกับหุ้นร้อนตัวเล็ก ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้มาตรการคุมเข้มมากขึ้น มีหุ้นที่ติดบัญชีต้องซื้อขายด้วยเงินสดนับสิบตัว และมีการขยายเวลาการซื้อขายด้วยเงินสดเป็น 6 สัปดาห์ ทำให้ราคาหุ้นที่ถูกขึ้นบัญชีซื้อขายด้วยเงินสดส่วนใหญ่อ่อนตัวลง แต่ก็มีบางตัวที่หัวแข็ง และราคาสวนมาตรการคุมเข้มของตลาดหลักทรัพย์ฯ
ตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ไม่น่ามีอะไรแตกต่างจากวันนี้ เพราะเป็นช่วงเวลารอคอยปัจจัยชี้นำ โดยเฉพาะการพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยซึ่งจะรู้ผลบ่ายวันพุธ เมื่อรู้ผลทิศทางตลาดจะมีความชัดเจนขึ้น นักลงทุนจึงควรรอมากกว่าลุย
