กสิกรฯ ย้ำพอร์ตรายย่อยไร้ปัญหา-เข้มบริหารเสี่ยง

กสิกรไทยแจงกรณีหนี้เน่าสินเชื่อรายย่อยทั้งระบบพุ่ง ยันในส่วนของกสิกรฯ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติต่ำกว่าระบบ แต่ก็มีการเฝ้าระวังอยู่ การบริหารเสี่ยงยังมีประสิทธิภาพ พร้อมตั้งเป้าสินเชื่อรายย่อยปีนี้ขยายตัว 10-13%

นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จ้ดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (KBANK)กล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมภาระหนี้สินครัวเรือนในตลาดที่กำลังเป็นที่ถูกจับตามอง เนื่องจากมีสัญาณการชำระหนี้ที่ด้อยลงว่า ธนาคารได้มีการประเมินคุณภาพสินเชื่อรายย่อยธนาคาร พบว่า ยังไม่มีปัจจัยที่น่ากังวล มีส่วนของยอดค้างชำระเกิน 3 เดือน หรือเอ็นพีแอลประมาณ 1.60% ต่ำกว่าระบบที่ 2.10% ขณะที่ยอดค้างชำระไม่เกิน 1 เดือนอยู่ที่ 14.27% ต่ำกว่าระบบที่ 15.14% ซึ่งสะท้อนให้เห็นกลยุทธ์ของธนาคารในการเน้นคุณภาพสินเชื่อมากกว่าปริมาณ

อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงความระมัดระวังในการบริหารจัดการปล่อยสินเชื่อภายใต้แนวทางการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมดังเช่นที่ผ่านมา โดยคาดว่าปีนี้สินเชื่อรายย่อยของธนาคารจะขยายตัว 10-13% แบ่งเป็นสินเชื่อบ้านโต 5-8% สินเชื่อบัตรเครดิตโต 11-14% และสินเชื่อบุคคลโต 15-18% ซึ่งในส่วนของบัตรเครดิตจะเน้นที่กลุ่มรายได้ตั้งแต่ 1 หมื่นบาทต่อเดือนขึ้นไป และสินเชื่อบุคคลในกลุ่มรายได้ 1 หมื่นบาทต่อเดือนขึ้นไป

“สินเชื่อรายย่อยเมื่อปีที่ผ่านมาถือว่าโตเป็นประวัติการณ์ จากการฟื้นฟูหลังภาวะน้ำท่วมและโครงการรถคันแรกของรัฐบาล ซึ่งสัญญาณที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นบางจุด คิดเป็นสัดส่วนทั้งระบบยังไม่เป็นปัญหา แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องดูแล ไม่ควรอยู่เฉยๆ แต่ต้องจัดการเป็นจุดๆ เพราะสินเชื่อรวมๆ ก็ยังต้องเติบโตอยู่”

ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของแนวโน้มสินเชื่อรายย่อยในระบบการเงินที่ขยายตัวสูง และมีสัญญาณการชำระหนี้ที่ด้อยลง เห็นได้จากไตรมาส 3 ของปี 2555 การผิดชำระหนี้เกิน 3 เดือนขึ้นไปของสินเชื่อบุคคลภายใต้การกำกับของ ธปท.(ไม่รวมสินเชื่อบ้าน-รถยนต์) เพิ่มขึ้น 37.8% เมื่อเทียบกับช่วงกันของปีก่อน (yoy) สินเชื่อบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 11.1% (yoy)