“คลัง” เล็งทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ มี.ค.นี้ หลังสถานการณ์เงินบาทแข็งค่า

สศค.เล็งทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ มี.ค.นี้หลังเงินบาทแข็งค่า โดยจากประมาณการณ์ประเมินว่าหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ 1 จะกระทบการส่งออกร้อยละ 0.4 กระทบการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 2.3 แต่ส่งผลดีให้เงินเฟ้อลดลงร้อยละ 0.2

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 2555 ว่า จากเครื่องชี้วัดภาวะเศรษฐกิจต่างๆ บ่งชี้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะสามารถขยายตัวได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15.9 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ติดลบถึงร้อยละ 8.9 ซึ่งเป็นฐานที่ต่ำมาก จากผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในช่วงปลายปี และเมื่อรวมกับ 3 ไตรมาสแรกปี 2555 ที่จีดีพีขยายตัวแล้วร้อยละ 2.6 ส่งผลให้จีดีพีปี 2555 ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 5.7 และขยายตัวในอัตราชะลอลงเหลือร้อยละ 5 ในปี 2556

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไตรมาส 4 ที่จะขยายตัวได้มากเป็นผลมาจากการใช้จ่ายในประเทศที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งมาก จากการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนที่ยังขยายตัวสูงต่อเนื่อง โดยดูได้จากตัวเลขการผลิตและการจำหน่ายรถยนต์ที่ขยายตัวสูงกว่าร้อยละ 268.7 รวมถึงการนำเข้าเครื่องจักร สินค้าทุน การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

นายเอกนิติกล่าวถึงจีดีพีปี 2556 โดยระบุว่า สศค.ยังคาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในระดับร้อยละ 5 แม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น เพราะมองว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการคาดการณ์ที่ระดับ 29.7-31.7 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 30.7 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับปีก่อนที่เงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 31.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยจากประมาณการประเมินว่าหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ 1 จะกระทบต่อการส่งออกร้อยละ 0.4 กระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 2.3 แต่ส่งผลดีให้เงินเฟ้อลดลงร้อยละ 0.2

“เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเป็นการแข็งค่าขึ้นชั่วคราวเท่านั้น จากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลกและการไหลเข้ามาในเอเชีย รวมทั้งไทย ซึ่ง สศค.ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดและมองว่ายังไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกที่ประมาณการไว้ที่ร้อยละ 10 ในปีนี้สูงกว่าปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 3.1 เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าจะขยายตัวสูงขึ้นจากร้อยละ 3.5 ปีก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 3.7 และยังไม่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของจีดีพีที่ระดับร้อยละ 5 แต่จะมีการนำผลกระทบที่เกิดขึ้นมาประเมินและทบทวนเพื่อปรับประมาณการอีกครั้งในเดือนมีนาคมนี้” นายเอกนิติกล่าว