xs
xsm
sm
md
lg

นิคมเหมราชฯ โชว์ยอดขายปี 55 พุ่ง 39%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 นิคมเหมราช โชว์ยอดขายที่ดินปี 55 สูงถึง 2,317 ไร่ เพิ่มขึ้น 39% พบกลุ่มลูกค้าจากญี่ปุ่นเข้าซื้อเกือบครึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์

    บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน  จำกัด (มหาชน) (HEMRAJ) เปิดเผยว่า บริษัทสร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่สูงถึง 2,317 ไร่ (927 เอเคอร์ หรือ 370 เฮกตาร์) ตลอดปี 2555 หรือเพิ่มขึ้น 39% จากปีก่อนหน้า  โดยมีจำนวนสัญญารวม 115 สัญญา เป็นลูกค้าใหม่ 80 ราย และเป็นการขยายโครงการของลูกค้าที่มีอยู่เดิม 35 ราย ซึ่งกว่า 46% เป็นลูกค้าญี่ปุ่น  และกว่า 30% มาจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์

    ทั้งนี้ ในปี 2555 บริษัทมีพื้นที่การให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป และคลังสินค้าเพิ่มสูงขึ้นถึง 93,606 ตารางเตร หรือเพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับยอดสะสมของปี 2554 โดยปัจจุบัน มียอดสะสมพื้นที่ให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป และคลังสินค้ารวม 252,684 ตารางเมตร นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ให้เช่าล่วงหน้าอีก 39,279 ตารางเมตร ซึ่งจะเริ่มในอีก 1-6 เดือนข้างหน้า ในขณะที่ปริมาณความต้องการด้านบริการสาธารณูปโภคนั้นก็เพิ่ม 12% จากปีก่อน

    ล่าสุด บริษํท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาทของ บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) ที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A-” ด้วยเช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปชำระหนี้เดิม และลงทุนขยายธุรกิจตามแผน

    โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงผลงานในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมซึ่งเป็นที่ยอมรับ และรายได้ประจำจากบริการสาธารณูปโภคที่เติบโตเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติที่ผันผวนของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออันดับเครดิตของบริษัท

 ขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมต่อไปได้ โดยสัดส่วนรายได้ประจำที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจบริการสาธารณูปโภค ธุรกิจไฟฟ้า และค่าเช่าโรงงานอุตสาหกรรมจะช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินงานให้แก่บริษัทท่ามกลางความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

    เหมราชพัฒนาที่ดินเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งก่อตั้งในปี 2531 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2535 ณ เดือนสิงหาคม 2555 กลุ่มตระกูลหอรุ่งเรืองถือหุ้นของบริษัทในสัดส่วน 15.0% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด นอกจากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมและการให้บริการสาธารณูปโภคแล้ว บริษัทยังพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหรูใจกลางกรุงเทพฯ ด้วย ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ซึ่งรวมถึงคอนโดมิเนียมคิดเป็นสัดส่วน 60%-70% ของรายได้รวม ยกเว้นในปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมหดตัวจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ส่วนรายได้ที่เหลือ 30%-40% เป็นรายได้ประจำซึ่งส่วนใหญ่มาจากบริการสาธารณูปโภค และค่าเช่าโรงงาน
          
กำลังโหลดความคิดเห็น