สภาพัฒน์คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตได้เกิน 5.5% หลังสัญญาณเศรษฐกิจโลกดีต่อเนื่อง การลงทุนในประเทศแข็งแกร่ง ลั่นส่งออกโตได้ถึง 12% ด้านธนาคารแห่งประเทศไทยฟันธงไม่มีปัจจัยเสี่ยงให้ห่วงมากนัก คาดโตเกิน 4.6% การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนเป็ปัจจัยหนุน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2556 มีโอกาสขยายตัวสูงกว่า 5.5% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ขณะที่การลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการบริโภคที่มีแรงส่งจากปี 2555
“ปีนี้เศรษฐกิจโลกขยายตัวต่อเนื่อง เป็นผลดีกับการส่งออก ซึ่ง สศช.คาดว่าจะขยายตัวที่ 12.2% ส่วนในประเทศจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การลงทุนระบบน้ำ การเร่งออกร่าง พ.ร.บ.ลงทุน 2 ล้านล้านบาท”
การที่ สศช.มองเศรษฐกิจโลกปีหน้าในมุมบวก และคาดการณ์ว่าการส่งออกจะขยายตัวที่ 12.2% แต่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท้วงติงว่า ปีหน้าไม่รู้ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจกลางทางหรือไม่ จึงเห็นควรให้กำหนดเป้าหมายที่การส่งออกที่อัตรา 9% ซึ่ง สศช.เห็นว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรที่รัฐบาลจะกำหนดเป้าหมายการส่งออกเช่นนั้น
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีหน้าว่า หากมองปัจจัยในประเทศแล้ว แทบไม่มีปัจจัยเสี่ยงใดที่น่าเป็นห่วงมากนัก จึงมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยในปีหน้ามีโอกาสเติบโตได้มากกว่าที่ ธปท. ประเมินไว้ที่ 4.6% โดยที่ปัจจัยหนุนยังคงเป็นเรื่องการบริโภค และการลงทุนภาคเอกชน
ด้านศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้จัดทำผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ประจำไตรมาส 4 ปี 2555 โดยมีผู้ประกอบการตอบแบบสอบถามจำนวน 166 บริษัท ผลการสำรวจพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน มีค่าเท่ากับ 56.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากค่าดัชนี 51.3 ในไตรมาสก่อน
ทั้งนี้ เพิ่มขึ้นจากค่าดัชนี 37.2 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเกิดวิกฤตน้ำท่วม ซึ่งค่าดัชนี 56.8 ในไตรมาสนี้นับเป็นค่าดัชนีสูงที่สุดในรอบประมาณ 3 ปี.