“คลัง” คาดคนแห่ใช้สิทธิคืนภาษีรถคันแรกทะลุ 1 ล้านคันแน่ “ทนุศักดิ์” ยอมรับ ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิในโครงการมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่แรกอย่างถล่มทลาย ลั่นไม่กลัวยอดบานปลาย เพราะรัฐบาลมองว่า โครงการนี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รับอานิสงส์จากโครงการนี้จำนวนมาก พร้อมทั้งยังเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการมีรถไว้ใช้ในการดำเนินชีวิต หรือประกอบอาชีพ พร้อมสั่ง “สรรพสามิ" ประเมินผลด่วน คาดต้องควักเงินเกือบ 9 หมื่นล้าน
กรมสรรพสามิต รายงานจำนวนประชาชนที่มายื่นคำขอคืนภาษีสรรพสามิตรถยนต์คันแรก ณ วันที่ 14 ธ.ค.2555 แล้ว 8.34 แสนคัน คิดเป็นเงินภาษีที่จะต้องคืนกว่า 6.1 หมื่นล้านบาทแล้ว ซึ่งกรมสรรพสามิตคาดว่า จนกว่าจะถึงวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้ประชาชนมาใช้สิทธิ จะมีผู้มายื่นขอคืนภาษีเพิ่มสูงขึ้นอีกอาจจะแตะ 1 ล้านคัน ล่าสุด มีผู้มาใช้บริการวันละหลายหมื่นคน ขณะนี้ยังเหลือเวลายื่นเอกสารถึง 15 วัน ซึ่งกรมสรรพสามิตเปิดให้บริการยื่นเอกสารทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยในวันที่ 31 ธ.ค.2555 เปิดให้ยื่นเอกสารถึง 24.00 น.
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผลประโยชน์ที่ภาครัฐจะได้รับจากโครงการรถยนต์คันแรก ทั้งในเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ภาษีเงินได้นิติบุคคลจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถยนต์คันแรกว่ามีมูลค่าเป็นเท่าใด แม้ว่าขณะนี้ จะมีผู้มาใช้สิทธิในโครงการมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่แรกอย่างถล่มทลาย
อย่างไรก็ดี รัฐบาลมองว่าโครงการนี้ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รับอานิสงส์จากโครงการนี้มาก พร้อมทั้งยังเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการมีรถไว้ใช้ในการดำเนินชีวิต หรือประกอบอาชีพ โครงการนี้ทำให้ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น แม้รัฐต้องคืนภาษีให้ แต่ภาษีดังกล่าวเป็นภาษีที่ผู้ใช้รถยนต์เป็นผู้จ่าย ไม่ใช่เงินจากงบประมาณ
“ถ้าไม่มีโครงการนี้ ยอดขายรถยนต์ในไทยอยู่ที่ปีละ 2 แสนคัน โครงการรถยนต์คันแรกกระตุ้นให้เกิดยอดขายเพิ่มถึง 8 แสนคัน ถ้าไม่มีโครงการนี้ รัฐก็ไม่ได้ภาษีเพิ่ม ส่วนการคืนภาษีไม่ได้จ่ายทันที แต่เป็นการทยอยจ่ายเมื่อผู้ซื้อรถครอบครองรถยนต์ครบ 1 ปี ขณะนี้ทราบมาว่า บางค่ายนัดส่งมอบรถยนต์ไปถึงต้นปี 2558 ตรงนี้ยิ่งเป็นการดีต่อรัฐบาลที่ได้เม็ดเงินจากภาษีรถยนต์มาหมุนก่อน” นายทนุศักดิ์กล่าว
สำหรับกรณีที่ค่ายรถยนต์บางแห่งที่เปิดให้จองรถยนต์ทั้งที่ไม่มีการผลิตรถยนต์จริงออกมานั้นเป็นอำนาจของกรมสรรพสามิตในการดูแล เพราะข้อกำหนด หรือข้อบังคับต่างๆ ในโครงการรถยนต์คันแรกกำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้ว