xs
xsm
sm
md
lg

เปิดทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทย ปี 55 “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” แชมป์ประเภทบุคคล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เปิดทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทย ปี 55 ประเภทบุคคล “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” แห่งค่ายยักษ์อสังหาฯ “พฤกษา” ครองแชมป์ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ส่วนบิ๊กเนมตลาดหุ้นเป็นเศรษฐีกันถ้วนหน้า

รายงานข่าวการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ซึ่งจัดทำโดยวารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการจัดทำขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2555 ถือเป็นปีที่ 19 แล้ว

โดยภาพรวมของเศรษฐีหุ้นไทยในปี 2555 ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2555 จำนวน 5,737 ราย มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 1,051,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ถึง 385,753 ล้านบาท หรือ 51.91% เท่ากับรวยขึ้นเฉลี่ยวันละ 1,056.86 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปีนี้เป็นปีแรกที่ความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นไทยมีมูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านบาท เนื่องจากได้รับอานิสงส์โดยตรงจากภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ร้อนแรงขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ วันที่ 30 กันยายน 2555 ซึ่งเป็นวันคำนวณมูลค่าหุ้นที่เศรษฐีหุ้นไทยถือครอง ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,298.79 จุด เทียบกับปี 2554 ที่ 916.21 เท่ากับเพิ่มขึ้นถึง 382.58 จุด หรือ 41.76%

สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2555 ปรากฏว่า ตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2555 ตกเป็นของ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีที่ 3 แล้วที่ ทองมา ได้ครองตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย โดยเริ่มนั่งเก้าอี้แชมป์ตั้งแต่ปี 2553 ต่อเนื่องมาในปี 2554 และปี 2555

โดยในปีนี้ ทองมาถือครองหุ้นมูลค่ารวม 23,497.78 ล้านบาท จากการถือหุ้น PS ในสัดส่วน 58.61% มูลค่า 23,307.57 ล้านบาท หุ้น บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) 1.09% มูลค่า 182.72 ล้านบาท และ หุ้น บมจ.ซีพโก้ (SEAFCO) บริษัทรับก่อสร้างงานฐานราก และงานโยธาทั่วไป ในสัดส่วน 0.65% มูลค่า 7.50 ล้านบาท

หลังจากเจอพิษตลาดหุ้นดิ่งลงทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลมายังตลาดหุ้นไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ราคาหุ้น PS ของทองมาตกลงไปอยู่ที่ 14.30 บาท แต่มาในปีนี้ ราคาหุ้น PS ก็กลับพลิกฟื้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 18.00 บาท ในวันที่ 30 กันยายน 2555 และเมื่อรวมกับมูลค่าหุ้นQH และ SEAFCO ที่เพิ่มขึ้นจากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นเช่นเดียวกัน จึงส่งผลให้ความมั่งคั่งของทองมา แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 4,977.44 ล้านบาท หรือ 26.88%

เศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 2 ในปีนี้ ได้แก่ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) โดยถือหุ้น BTS ในสัดส่วน 43.57% มูลค่า 23,304.32 ล้านบาท และหุ้น บมจ.บางกอกแลนด์ (BLAND) 0.68% มูลค่า 151.75 ล้านบาท รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 23,456.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,713.24 ล้านบาท หรือ 84.07% ซึ่งน้อยกว่าแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปีนี้เพียง 41.71 ล้านบาทเท่านั้น

ปีนี้ อดีตแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 7 ปีซ้อน อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หล่นลงจากเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 2 มาอยู่ในอันดับ 3 โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 21,687.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,197.13 ล้านบาท หรือ 40.01% ประกอบด้วย หุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 23.76% มูลค่า 21,682.02 ล้านบาท และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) 1.36% มูลค่า 5.94 ล้านบาท

สำหรับเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 4-6 ในปีนี้ ยังตกเป็นของ 3 ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) แต่มีการสลับตำแหน่งกันเล็กน้อย โดยเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 4 ได้แก่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ ก้าวขึ้นมาจากอันดับ 5 ในปี 2554 โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 21,123.49 ล้านบาท รวยขึ้น 11,253.23 ล้านบาท หรือ 114.01% ประกอบด้วยหุ้น BGH ที่หมอเสริฐถือหุ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 12.7% มูลค่า 21,092.04 ล้านบาท และหุ้น บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) 0.79% มูลค่า 31.45 ล้านบาท

ด้าน วิชัย ทองแตง หล่นจากอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว มาเป็นเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 5 ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 16,791.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,987.30 ล้านบาท หรือ 42.25% ประกอบด้วยหุ้น BGH ในสัดส่วน 9.94% มูลค่า 16,519.43 ล้านบาท และหุ้น บมจ.ปุ๋ยเอ็นเอฟซี (NFC) 8.04% มูลค่า 272 ล้านบาท

ส่วนเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 6 ยังเป็นของ สาธิต วิทยากร เช่นเดียวกับปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้น BGH สูงเป็นอันดับ 3 ในสัดส่วน 7.94% รวมมูลค่า 13,188.18 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 3,704.56 ล้านบาท หรือ 39.06%

ในรอบปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ BGH ได้ปรับตัวเพิ่มสูงมาก จาก 64 บาท เป็น 107.5 บาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2555 เพิ่มขึ้น 43.50 บาท หรือ 67.97% ส่งผลให้บรรดาผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 3 ราย รวยขึ้นกันถ้วนหน้า

สำหรับเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 7 ในปีนี้ ยังตกเป็นของ ทายาทโอสถสภา นิติ โอสถานุเคราะห์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 12,330.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,761.02 ล้านบาท หรือ 62.90% โดยนิติ เป็นเศรษฐีหุ้นไทยอีกรายที่รวยขึ้นจากการที่ราคาหุ้นในพอร์ตทั้ง 14 บริษัทได้ปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่แล้ว

ปีนี้ 3 พี่น้องในตระกูลมาลีนนท์ได้กลับมาทวงตำแหน่งเศรษฐีหุ้นไทยในอันดับ 8 และ 9 ได้สำเร็จ โดยเศรษฐีหุ้นไทยทั้ง 3 ราย ได้แก่ ประชุม นิภา และประวิทย์ มาลีนนท์ เป็นผู้ถืออันดับ 1 ของ บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) ในสัดส่วน 6.38%

แต่นอกเหนือจากหุ้น BEC แล้ว ประชุมยังถือหุ้น บมจ.ศิครินทร์ (SKR) อีก 4.5% มูลค่า 89.10 ล้านบาท และหุ้น บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) 0.64% มูลค่า 12.78 ล้านบาท รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 9,861.37 ล้านบาท รวยขึ้น 5,105.37 ล้านบาท หรือ 107.35% ส่งผลให้ประชุมเป็นเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 8 ส่วนนิภา และประวิทย์ เป็นเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 9 โดยมีมูลค่าหุ้น BEC ที่ถือครองคนละ 9,759.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,071.11 ล้านบาท หรือ 108.16
กำลังโหลดความคิดเห็น