ธ.ทหารไทย คาดยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตสะพัด ช่วงเทศกาลปีใหม่ 3.5 หมื่นล้านบาท เตือนผู้บริโภคเลี่ยง 5 พฤติกรรมเสี่ยงสู่การเป็นหนี้ และต้องแบกภาระดอกเบี้ยสูง หากแต่ละเดือนมีเงินชำระแค่ขั้นต่ำ
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินตัวเลขยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในช่วงเทศกาลปลายปีนี้ อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30% จากช่วงปกติ หรือคิดเป็นยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อบัตรต่อเดือนที่ 8,100 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติที่ 6,100 บาท จึงคาดว่าจะมีเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้ ไม่ต่ำกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ถือเป็นความเสี่ยงในการสร้างภาระหนี้ในอนาคตของผู้บริโภค ทั้งนี้ จึงแนะนำให้ผู้บริโภคพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ก่อนรูดใช้จ่าย พร้อมหลีกเลี่ยง “5 พฤติกรรมเสี่ยง” คือ 1.ใช้บัตรเครดิตแทนเงินสดเพียงเพราะความสะดวก เพราะไม่เห็นเงินสดไหลออกจากกระเป๋า จึงควบคุมการใช้จ่ายได้ยาก ถ้าถือบัตร 3 ใบนั่นหมายถึงว่า อาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 24,300 บาทเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค.
2.รูดบัตรเกินวงเงิน เพราะจะทำให้เสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าอัตราปกติ และเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทั้งสอง อาจต้องทำบันทึกค่าใช้จ่ายพร้อมกับตรวจเช็กการใช้จ่ายอยู่เสมอ 3.ถูกแรงดึงดูดจากบัตรเครดิตโน้มน้าวใจ เช่น มีของแถมมาล่อใจจนต้องใช้จ่าย จนทำให้ต้องแบกภาระหนี้สินมากเกินไป
4.ชำระเงินไม่ตรงเวลา เพราะนอกจากต้องเสียดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติแล้ว ยังทำให้มีประวัติการชำระเงินที่ไม่ดีบันทึกอยู่ในเครดิตบูโร ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการขอสินเชื่อในอนาคต เห็นได้จากหนี้เสียของลูกหนี้บัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มจาก 2% ตอนต้นปีเป็น 2.5% ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี หากวันที่ต้องชำระเงินไม่สอดคล้องกับรายรับที่จะเข้ามา ควรปรึกษาผู้ออกบัตรเพื่อกำหนดวันชำระเงินให้เหมาะสม
5.การจ่ายเพียงแค่ยอดขั้นต่ำ เพราะจะก่อให้เกิดดอกเบี้ยเป็นเงาตามตัว และนำไปสู่ภาระหนี้ เช่น ถ้ารูดบัตร 10,000 บาท และชำระขั้นต่ำเพียง 1,000 บาทต่อเดือน จะทำให้ต้องแบกภาระหนี้ไปถึง 11 เดือน จากการวิเคราะห์เพิ่มเติมพบว่า ยอดหนี้บัตรเครดิตของคนไทยในปัจจุบันมากกว่าครึ่งเป็นหนี้ค้างชำระสะสมจากเดือนก่อนหน้า ทำให้ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยมากถึง 20% ต่อปี