“รมว.คลัง” เร่งแก้ปัญหาขาดดุลงบประมาณ หวังเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ ตั้งเป้างบปี 57 ขาดดุลเหลือ 2.25 แสนล้านบาท ต่ำกว่า 2% ของจีดีพี
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงปาฐกถาพิเศษ “ออกแบบเศรษฐกิจไทย ภายใต้โจทย์ใหญ่เศรษฐกิจโลก” ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ โดยระบุว่า รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายลดการขาดดุลในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ให้เหลือยอดขาดดุลที่ 2.25 แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า 2% ของจีดีพี
โดยในงบประมาณปี 2554 มียอดขาดดุลงบ 4 แสนล้านบาท ส่วนงบประมาณรายจ่ายปี 2555 ตั้งไว้ที่ 3.5 แสนล้านบาท แต่เนื่องจากในช่วงดังกล่าวเกิดปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศ จึงทำให้มีการใช้จ่ายเกินงบประมาณไป 54,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงทำให้ในปีงบประมาณ 2555 มียอดขาดดุลราว 4 แสนล้านบาท
การขาดดุลงบประมาณในระดับดังกล่าวเกินระดับ 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และอาจทำให้เกิดความกังวลต่อผู้ที่มองเศรษฐกิจโดยใช้สัดส่วนของจีดีพีเทียบเคียง ดังนั้น การลดการขาดดุลงบประมาณในปี 2555 เหลือ 3.5 แสนล้านบาทถือว่าต่ำกว่า 3% ของจีดีพีแล้ว และนานาประเทศยอมรับว่าการขาดดุลงบประมาณในระดับดังกล่าวของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี และไม่น่าประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจในประเทศ
อย่างไรก็ตาม การจะลดการขาดดุลงบประมาณรายจ่ายในปี 2557 เหลือ 2.25 แสนล้านบาทนั้น ซึ่งถือว่าลดลง 1 ใน 4 จากปี 2556 ถือว่าน่าจะเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถลดการขาดดุลงบประมาณลงได้เหลือต่ำกว่า 2% ในขณะที่สหรัฐอเมริกา และหลายประเทศในยุโรปมียอดขาดดุลงบประมาณสูงกว่านี้
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า แนวนโยบายที่จะทำให้สามารถลดการขาดดุลงบประมาณในปี 2557 ได้ตามเป้า คือ การเก็บภาษีให้ได้ตามเป้า และการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ
