xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด กนง. มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% ตามคาด เผย ศก.-ลงทุนเติบโตสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บอร์ด กนง. มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ล่วงหน้าไว้ เนื่องจากเศรษฐกิจ และการลงทุนในประเทศยังขยายตัวได้ดี

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.75% เป็นไปตามที่ตลาดได้คาดการณ์เอาไว้ เนื่องจากปัจจัยอุปสงค์ในประเทศยังเติบโตดี เศรษฐกิจฟื้นตัวดีกว่าที่คาดไว้ และการลงทุนยังขยายตัวสูง อย่างไรก็ตาม กนง.จะติดตามพัฒนาการเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิดเพื่อดำเนินนโยบายที่เหมาะสม

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน เลขานุการ กนง. แถลงว่า การคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 2.75% เนื่องจาก กนง. มีความเห็นว่า ในภาวะที่ความเสี่ยงด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันยังอยู่ในระดับผ่อนปรนและเหมาะสมต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะต่อไป จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% ต่อปี

“คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด โดยพร้อมดำเนินนโยบายที่เหมาะสมตามความจำเป็น”

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ที่ประชุม กนง. เห็นว่า เศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพและมีสัญญาณการปรับตัวที่ดีขึ้น โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนดีขึ้นกว่าที่คาด โดยเฉพาะภาคที่อยู่อาศัยและการจ้างงานในสหรัฐฯ แต่ความไม่แน่นอนของการต่ออายุมาตรการด้านการคลังของสหรัฐฯ ยังเป็นความเสี่ยงสำคัญ

ขณะที่เศรษฐกิจจีนมีสัญญาณดีขึ้น ทั้งในภาคการส่งออก การลงทุนและการบริโภคในประเทศ สำหรับเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรยังคงหดตัว แต่คาดว่าภาวะเศรษฐกิจการเงินจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในปีหน้าจากมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะที่มีความชัดเจนขึ้นและเศรษฐกิจในประเทศสมาชิกหลักยังขยายตัวได้ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

เศรษฐกิจเอเชียมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นบ้างตามทิศทางการฟื้นตัวของภาคการส่งออกและแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนรวมทั้งอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังขยายตัวได้ดีข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดชี้ว่า เศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องเทียบกับที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ผลกระทบของเศรษฐกิจโลกยังจำกัดอยู่เฉพาะในภาคที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกสินค้า ขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศที่ดีกว่าประมาณการครั้งก่อนช่วยรองรับผลกระทบจากการส่งออกที่ชะลอลง มองไปข้างหน้า คาดว่าการส่งออกจะเริ่มฟื้นตัวในครึ่งแรกของปี 2556 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนจะยังเป็นแรงส่งสำคัญของเศรษฐกิจต่อไป โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นภาคเอกชนที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีและภาวะการเงินที่ผ่อนปรน สินเชื่อขยายตัวสูง สำหรับแรงกดดันเงินเฟ้อทรงตัวในระดับต่ำใกล้เคียงกับการประชุมครั้งก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น