คืนสู่ความซบเซา
ตลาดหุ้นยังผงกหัวไม่ขึ้น โดยปัจจัยภายนอกที่เป็นลบฉุดให้ดัชนีทรุดตัวลงต่อ และมีแนวโน้มที่จะเกิดการปรับฐานต่อเนื่อง โดยไม่อาจประเมินได้ว่ารอบนี้จะลงลึกขนาดไหน แต่ไม่มีสัญญาณว่าจะกลับมาที่ระดับ 1,300 จุดอีกเมื่อไหร่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ระดับ 1,289.07 จุด ลดลง 5.43 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 38,857 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,921 ล้านบาท โดยยอดขายสุทธิของต่างชาติส่วนหนึ่งเกิดจากการขายบิ๊กล็อตหุ้นซีพีเอฟ ทำให้มูลค่าซื้อขายพุ่งขึ้น และต่างชาติกลายเป็นยอดขายสุทธิมากมาย ทั้งที่ส่วนหนึ่งเกิดจากรายการขายบิ๊กล็อต
ตลาดหุ้นทั่วโลกเงียบเหงาซบเซาตามๆ กันเนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ นักลงทุนพากันชะลอการซื้อขาย และเฝ้ารอดูสถานการณ์ รวมทั้งนักลงทุนไทยด้วย และในระยะสั้นก็ไม่มีสัญญาณข่าวดีเกิดขึ้น จึงทำใจกันว่าดัชนีคจะไม่ไปไหน และดีที่สุดคือการประคับประคองตัวใกล้ 1,300 จุด
แต่สถานการณ์ภายนอกก็ยังมีความเคลื่อนไหวในเชิงลบ ส่งผลกระทบเชิงจิตวิยาต่อการลงทุน ทำให้หุ้นถอยหลังลงมาหลายวัน และมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ การมีหุ้นอยู่ในมือจึงเป็นความเสี่ยง เพราะไม่อาจประเมินได้ว่าจะเกิดการปรับฐานลงต่อเนื่องหรือไม่ ส่วนการดีดตัวกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,300 จุดใหม่ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ
ดังนั้น ใครที่พอร์ตว่างถือว่าโชคดีแล้ว ส่วนใครที่มีหุ้นติดพอร์ตเพียงเล็กน้อยคงไม่มีแรงกดดันเท่าไหร่ แต่นักลงทุนที่คิดจะซื้อเพิ่มต้องทบทวนใหม่ เพราะช่องว่างการทำกำไรระยะสั้นไม่เปิด ช้อนซื้อไปมีโกาสติด ถ้าเลือกได้ ช่วงนี้เลือกที่จะไม่มีกิจกรรมใดในตลาดหุ้นเป็นทางเลือกดีที่สุด ละเว้นเก็บหุ้นทั้งเล็กทั้งใหญ่ปลอดภัยที่สุด
ตลาดหุ้นยังผงกหัวไม่ขึ้น โดยปัจจัยภายนอกที่เป็นลบฉุดให้ดัชนีทรุดตัวลงต่อ และมีแนวโน้มที่จะเกิดการปรับฐานต่อเนื่อง โดยไม่อาจประเมินได้ว่ารอบนี้จะลงลึกขนาดไหน แต่ไม่มีสัญญาณว่าจะกลับมาที่ระดับ 1,300 จุดอีกเมื่อไหร่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ระดับ 1,289.07 จุด ลดลง 5.43 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 38,857 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,921 ล้านบาท โดยยอดขายสุทธิของต่างชาติส่วนหนึ่งเกิดจากการขายบิ๊กล็อตหุ้นซีพีเอฟ ทำให้มูลค่าซื้อขายพุ่งขึ้น และต่างชาติกลายเป็นยอดขายสุทธิมากมาย ทั้งที่ส่วนหนึ่งเกิดจากรายการขายบิ๊กล็อต
ตลาดหุ้นทั่วโลกเงียบเหงาซบเซาตามๆ กันเนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ นักลงทุนพากันชะลอการซื้อขาย และเฝ้ารอดูสถานการณ์ รวมทั้งนักลงทุนไทยด้วย และในระยะสั้นก็ไม่มีสัญญาณข่าวดีเกิดขึ้น จึงทำใจกันว่าดัชนีคจะไม่ไปไหน และดีที่สุดคือการประคับประคองตัวใกล้ 1,300 จุด
แต่สถานการณ์ภายนอกก็ยังมีความเคลื่อนไหวในเชิงลบ ส่งผลกระทบเชิงจิตวิยาต่อการลงทุน ทำให้หุ้นถอยหลังลงมาหลายวัน และมีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ การมีหุ้นอยู่ในมือจึงเป็นความเสี่ยง เพราะไม่อาจประเมินได้ว่าจะเกิดการปรับฐานลงต่อเนื่องหรือไม่ ส่วนการดีดตัวกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,300 จุดใหม่ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ
ดังนั้น ใครที่พอร์ตว่างถือว่าโชคดีแล้ว ส่วนใครที่มีหุ้นติดพอร์ตเพียงเล็กน้อยคงไม่มีแรงกดดันเท่าไหร่ แต่นักลงทุนที่คิดจะซื้อเพิ่มต้องทบทวนใหม่ เพราะช่องว่างการทำกำไรระยะสั้นไม่เปิด ช้อนซื้อไปมีโกาสติด ถ้าเลือกได้ ช่วงนี้เลือกที่จะไม่มีกิจกรรมใดในตลาดหุ้นเป็นทางเลือกดีที่สุด ละเว้นเก็บหุ้นทั้งเล็กทั้งใหญ่ปลอดภัยที่สุด
