ปลอดข่าวหนุน
ตลาดหุ้นส่งท้ายสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยแม้ว่ามูลค่าการซื้อขายยังหนาตา แต่ดัชนีก็อ่อนแรงลงต่อเนื่อง และไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นคืนสู่ความคึกคัก จนนักวิเคราะห์บางคนมองว่าภาวะความซบเซาของตลาดอาจจะยืดเยื้อตลอดเดือนพฤศจิกายน
ดัชนีปิดที่ 1,290.83 จุด ลดลง 2.87 จุด มูลค่าซื้อขาย 38,218 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 681 ล้านบาท
ตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในภาวะไร้ทิศทางเพราะไม่มีปัจจัยชี้นำ แต่กลับมีความกังวลในปัญหาหนี้ยุโรป และปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้เกิดการชะลอลงทุน เพียงแต่ตลาดหุ้นไทยยังไม่เงียบเหงาเสียทีเดียว เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยพร้อมที่จะแลกหมัดวัดดวงเก็งกำไรหุ้นรายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเพดานการทำกำไรระยะสั้นจะมีขีดจำกัดก็ตาม
แต่แรงซื้อของนักลงทุนในประเทศไม่อาจขับเคลื่อนดัชนีได้ เพราะไม่มีใครกล้าลุยไล่ราคา และรู้ว่ายังไม่ถึงเวลาที่ตลาดจะติดเครื่องสู่ความร้อนแรง แต่กลับเป็นช่วงเวลาที่ต้องระมัดระวังปัจจัยลบที่จะกระหน่ำ ซึ่งจะทำให้ดัชนีถอยรูดต่อไป จึงเลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัวแต่ละวัน แม้จะรู้ว่าโอกาสทำกำไรน้อย และความเสี่ยงสูงก็ตาม
ตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์แกว่งตัวบวกลบในช่วงแคบ จึงไม่มีปัจจัยชี้นำจากภายนอก สำหรับต้นสัปดาห์หน้าซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าภาวะการซื้อขายไม่น่าจะแตกต่างจากช่วงปลายสัปดาห์นี้มากนัก โดยทรงๆ ทรุดๆ รอข่าวต่อไป
ตลาดหุ้นส่งท้ายสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยแม้ว่ามูลค่าการซื้อขายยังหนาตา แต่ดัชนีก็อ่อนแรงลงต่อเนื่อง และไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นคืนสู่ความคึกคัก จนนักวิเคราะห์บางคนมองว่าภาวะความซบเซาของตลาดอาจจะยืดเยื้อตลอดเดือนพฤศจิกายน
ดัชนีปิดที่ 1,290.83 จุด ลดลง 2.87 จุด มูลค่าซื้อขาย 38,218 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 681 ล้านบาท
ตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในภาวะไร้ทิศทางเพราะไม่มีปัจจัยชี้นำ แต่กลับมีความกังวลในปัญหาหนี้ยุโรป และปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้เกิดการชะลอลงทุน เพียงแต่ตลาดหุ้นไทยยังไม่เงียบเหงาเสียทีเดียว เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยพร้อมที่จะแลกหมัดวัดดวงเก็งกำไรหุ้นรายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเพดานการทำกำไรระยะสั้นจะมีขีดจำกัดก็ตาม
แต่แรงซื้อของนักลงทุนในประเทศไม่อาจขับเคลื่อนดัชนีได้ เพราะไม่มีใครกล้าลุยไล่ราคา และรู้ว่ายังไม่ถึงเวลาที่ตลาดจะติดเครื่องสู่ความร้อนแรง แต่กลับเป็นช่วงเวลาที่ต้องระมัดระวังปัจจัยลบที่จะกระหน่ำ ซึ่งจะทำให้ดัชนีถอยรูดต่อไป จึงเลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัวแต่ละวัน แม้จะรู้ว่าโอกาสทำกำไรน้อย และความเสี่ยงสูงก็ตาม
ตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์แกว่งตัวบวกลบในช่วงแคบ จึงไม่มีปัจจัยชี้นำจากภายนอก สำหรับต้นสัปดาห์หน้าซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าภาวะการซื้อขายไม่น่าจะแตกต่างจากช่วงปลายสัปดาห์นี้มากนัก โดยทรงๆ ทรุดๆ รอข่าวต่อไป