บล.เกียรตินาคิน คาดกำไรสุทธิปีนี้แตะ 130 ล้านบาท เหตุ 9 เดือนทำได้ 100 ล้านบาท เหตุนักลงทุนเทรดหุ้นมากขึ้น ดันมาร์เกตแชร์ตามเป้า 2.4% จากออกบทวิเคราะห์แนะนำลงทุนหุ้นแม่นยำทำให้ได้รับผลตอบแทนสูงเฉลี่ย 40% สูงกว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีที่ต้นปีขึ้นมา 25% พร้อมเชื่อดัชนีตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าถึงกลางปีหน้า
นายชาญศักดิ์ ธนเตชา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เกียรตินาคิน จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ที่ 130 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทไว้ที่ 100-110 ล้านบาท เนื่องจากในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ของบริษัทมีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาทแล้ว เพราะส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ของบริษัทในส่วนของนักลงทุนรายย่อยขึ้นมาอยู่ที่ 2.4% ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 2.4-2.5% จากปีก่อนที่มี 2.21% โดยสาเหตุที่มาร์เกตแชร์ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะบริษัทได้มีการออกบทวิเคราะห์ และแนะนำการลงทุนที่แม่นยำทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นที่ดี โดยแนะนำการลงทุนหุ้นบริษัทที่มีการเติบโตในประเทศเป็นหลัก จากยุโรป อเมริกาไม่ดี
ทั้งนี้ จากพอร์ตการลงทุนจำลองการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่แนะนำการลงทุนนั้นตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ให้ผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 40% ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยที่เพิ่มขึ้น 25% จึงจึงทำให้นักลงทุนมีการซื้อขายหุ้นมากขึ้น ขณะที่บัญชีลูกค้าของบริษัทใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ 2.5 หมื่นบัญชี ซึ่งมีการซื้อขายสม่ำเสมอ (แอ็กทีฟ) จำนวน 1.3 หมื่นบัญชี หรือประมาณ 50% ของบัญชีซื้อขายหุ้นทั้งหมด
สำหรับการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1,300 จุดนั้น ส่วนตัวมองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไปได้ เนื่องจากการที่ยุโรปยังมีปัญหาเรื่องวิกฤตหนี้ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังปรับตัวดีขึ้นไม่มาก และจีนยังไม่มีการดำเนินนโบยายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้กลับมาดีขึ้นเหมือนก่อนหน้านี้ เชื่อว่า เม็ดเงินสภาพคล่องของโลกขณะนี้ที่มีอยู่จำนวนมาก ก็จะยังคงไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตลาดหุ้นไทยถือว่ามีความน่าสนใจในการลงทุนมาก
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงมากไม่มาก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น แม้ P/E ตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค เชื่อว่าจะไปต่อได้ถึงกลางปีหน้า แต่หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป จีนมีการปรับตัวดีขึ้น เชื่อว่าจะทำให้เม็ดเงินต่างประเทศมีการไหลออกได้ แต่เชื่อว่าจะเป็นครึ่งหลังปีหน้า โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้าจะอยู่ที่ 1,451 จุด
