xs
xsm
sm
md
lg

สาลี่อุตฯ ดึงพันธมิตรญี่ปุ่นตั้ง บ.ร่วมทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บอร์ด “สาลี่อุตสาหกรรม” ไฟเขียวร่วมทุน “เซ็นทรัล ฟายน์ ทูล” ตั้งบริษัท สาลี่ ซีเอฟที (ประเทศไทย) จัดจำหน่ายแม่พิมพ์ ขยายฐานรายได้ เสริมทัพความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ คาดเริ่มดำเนินการได้ต้นปี 56 พร้อมโชว์ผลงานไตรมาส 3 กำไรพุ่ง 110% ผลพวงยอดขายจากลูกค้าอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าคึกคักตั้งแต่ต้นปี “สาทิส ตัตวธร” ส่งสัญญาณบวกต่อเนื่องมั่นใจไตรมาส 4/55 ผลประกอบการยังไปได้สวยและเติบโตต่อเนื่อง ดันรายได้ทั้งปีแตะ 1,000 ล้านบาทตามเป้า

นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ SALEE เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 4/2555 มีมติอนุมัติร่วมลงทุนกับ บริษัท เซ็นทรัล ฟายน์ ทูล จำกัด (CFT)  จัดตั้งบริษัท สาลี่ ซีเอฟที (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายแม่พิมพ์ (Molds) ในประเทศไทย โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้เดือนมกราคม 2556 นี้

ทั้งนี้ บริษัท สาลี่ ซีเอฟที (ประเทศไทย) จำกัด มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท แบ่งเป็น 100,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดย SALEE จะมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 51 และอีกร้อยละ 49 เป็นสัดส่วนการถือหุ้นของ CFT ซึ่งจะมีการชำระทุนจดทะเบียนเต็มจำนวน

“การที่บอร์ดฯ เห็นชอบให้มีการร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัท สาลี่ ซีเอฟที (ประเทศไทย) เนื่องจากเห็นว่าจะช่วยขยายธุรกิจของ SALEE ได้เป็นอย่างดี และจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจในระยะยาว โดยเฉพาะในแง่ของการเพิ่มยอดขายในอนาคต รวมถึงการได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล ซึ่ง CFT ถือเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น มีความชำนาญด้านการผลิตแม่พิมพ์มานานกว่า 30 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่พิมพ์ที่มีความละเอียด และซับซ้อน ส่วนแหล่งเงินลงทุนดังกล่าว SALEE นำมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท”

ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3/2555 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2555 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิรวม 46.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 110 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2554 ที่มีกำไรสุทธิรวม 22.29 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 284 ล้านบาท จาก 206 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 38 เนื่องจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นลูกค้า ได้แก่ อุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับกำลังการผลิตของกลุ่มบริษัทที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว และต่อเนื่องมาในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ซึ่งการที่มียอดขายที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิด Economy of Scale ทำให้อัตราส่วนต้นทุนขายลดลง เนื่องจากต้นทุนบางส่วนเป็นต้นทุนคงที่ ซึ่งไม่เพิ่มขึ้นตามยอดขาย

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2555 ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2555 เนื่องจากภาพรวมธุรกิจทั้งในส่วนของ “สาลี่อุตสาหกรรม” และบริษัท พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือยังมีการเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี เห็นได้จากคำสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ จากลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นต้น อีกทั้งยังคงเน้นกลยุทธ์ในการรักษาฐานลูกค้าเก่า และบุกขยายฐานลูกค้ารายใหม่ให้มากขึ้น รวมถึงจะเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และการบริการที่ดีเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้ตรงกับความต้องการสูงสุด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะผลักดันให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง จึงทำให้คาดว่ารายได้รวมปีนี้น่าจะแตะที่ระดับเป้าหมาย 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 30%จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 750 ล้านบาทได้


กำลังโหลดความคิดเห็น