วีจีไอ โกลบอล คาด 3-5 ปี รายเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% พร้อมคงเป้ารายได้ปีนี้ 40% แม้ครึ่งปีแรกเติบโตสูง เผยราคาหุ้นพุ่งแรกถือว่าสะท้อนกับผลประกอบการจากที่มีกำไรเติบโตสูง หลังปรับสัญญาจ่ายผลประโยชน์ให้บีทีเอสลดลง
นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดเผยว่าภายใน 3-5 ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% ซึ่งเป็นการเติบโตจากการโฆษณาบนรถไฟฟ้าบีเอสที่จะมีจำนวน และขบวนที่เพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะมีคอมมูนิตีมอลล์ เกิดขึ้นตามรถไฟฟ้ามากขึ้น ขณะที่การโฆษณาในโมเดิร์นเทรดนั้นเชื่อว่าจะมีการเติบโตมากขึ้นในส่วนของร้านขนาดเล็ก จึงทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 1,391.45 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 412.98 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าครึ่งปีแรกปีก่อน ที่ 176 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรเติบโตสูงจากที่บริษัทได้มีการปรับปรุงสัญญาจ่ายผลตอบแทนให้แก่บีทีเอสลดลง แต่บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 40% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,000 ล้านบาท เพราะจากที่บริษัทได้มีการทำสัญญาในการโฆษณาให้แก่ลูกค้าใหม่ในการโฆณษณาในห้างผ่านทีวี และวิทยุ
บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาในการทำสื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้าบีทีเอส ในส่วนต่อขยาย 5 สถานี ส่วนสถานีฝั่งธนบุรีนั้นไม่ได้เพราะติดเรื่องกฎหมาย เพราะที่ดินที่เวนคืนมาสร้างรถไฟฟ้าระบุว่า เพื่อสาธารณประโยชน์เท่านั้น จึงไม่สามารถทำได้ ส่วนการที่บริษัทได้มีการทำธุรกิจที่ประเทศจีนนั้นคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม จากที่บริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วนั้น มีบริษัทหลักทรัพย์มีการชวนให้บริษัทมีการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) แก่นักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ส่วนราคาหุ้นของบริษัทที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองถึง 100% โดยราคาอยู่ที่ 74 บาท จากราคาจองที่ 35 บาท เชื่อว่าเป็นเพราะนักลงทุนเห็นกำไรของบริษัทมีการเติบโตสูง ทำให้นักลงทุนมั่นใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท
นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดเผยว่าภายใน 3-5 ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% ซึ่งเป็นการเติบโตจากการโฆษณาบนรถไฟฟ้าบีเอสที่จะมีจำนวน และขบวนที่เพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะมีคอมมูนิตีมอลล์ เกิดขึ้นตามรถไฟฟ้ามากขึ้น ขณะที่การโฆษณาในโมเดิร์นเทรดนั้นเชื่อว่าจะมีการเติบโตมากขึ้นในส่วนของร้านขนาดเล็ก จึงทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 1,391.45 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 412.98 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าครึ่งปีแรกปีก่อน ที่ 176 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรเติบโตสูงจากที่บริษัทได้มีการปรับปรุงสัญญาจ่ายผลตอบแทนให้แก่บีทีเอสลดลง แต่บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 40% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,000 ล้านบาท เพราะจากที่บริษัทได้มีการทำสัญญาในการโฆษณาให้แก่ลูกค้าใหม่ในการโฆณษณาในห้างผ่านทีวี และวิทยุ
บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาในการทำสื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้าบีทีเอส ในส่วนต่อขยาย 5 สถานี ส่วนสถานีฝั่งธนบุรีนั้นไม่ได้เพราะติดเรื่องกฎหมาย เพราะที่ดินที่เวนคืนมาสร้างรถไฟฟ้าระบุว่า เพื่อสาธารณประโยชน์เท่านั้น จึงไม่สามารถทำได้ ส่วนการที่บริษัทได้มีการทำธุรกิจที่ประเทศจีนนั้นคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม จากที่บริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วนั้น มีบริษัทหลักทรัพย์มีการชวนให้บริษัทมีการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) แก่นักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ส่วนราคาหุ้นของบริษัทที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองถึง 100% โดยราคาอยู่ที่ 74 บาท จากราคาจองที่ 35 บาท เชื่อว่าเป็นเพราะนักลงทุนเห็นกำไรของบริษัทมีการเติบโตสูง ทำให้นักลงทุนมั่นใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท