ซีอีโอ “เสริมสุข” ส่งหนังสือแจง ตลท. ผลดำเนินงาน Q3/55 ขาดทุนสูงถึง 120 ล้านบาท เนื่องจากบันทึกเผื่อมูลค่าขวดแก้วที่ไม่สามารถใช้งาน 478 ล้านบาท หลังสิ้นสุดสัญญากับ “เป๊ปซี่” แต่ผลงานในงวด 9 เดือนยังมีกำไรสุทธิ 738 ล้าน ขณะที่ผู้ค้าทั่ว ปท.ป่วน แบกขวดแก้วเดิมคาร้าน กังขาจ่ายมัดจำขวดละ 5 บาท จะได้คืนหรือไม่
นายสมชาย บุลสุข ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุถึงผลประกอบการในไตรมาส 3/2555 สิ้นสุด 30 กันยายน 2555 ซึ่งรวมบริษัทย่อย ขาดทุนสุทธิเป็น 120.78 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.45 บาท เทียบจากที่มีกำไรสุทธิในช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 102 ล้านบาท หลังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเมื่อสิ้นสุดสัญญากับเป๊ปซี่
ทั้งนี้ SSC ผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมยี้ห้อเอส (est) ชี้แจงสาเหตุที่ทำให้เกิดขาดทุนเนื่องจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 520 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.5% เนื่องจากมีการบันทึกค่าเผื่อการลดมูลค่าขวดแก้วที่ไม่สามารถนำมาใช้งานได้แล้วเป็นจำนวน 478 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากการสิ้นสุดสัญญา Exclusive Bottling Appointment (EBA) กับเป๊ปซี่ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารก็เพิ่มขึ้น 90 ล้านบาท หรือ 9% ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลดำเนินงานรวม 9 เดือนปีนี้ พบว่ามีกำไรสุทธิมากถึง 738 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเพียง 323 ล้านบาท
ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การบันทึกเผื่อมูลค่าขวดแก้วที่ไม่สามารถใช้งาน 478 ล้านบาทนั้น ทางด้าน SSC ได้มีการเรียกเก็บคืนขวดจากร้านค้าคืนหรือไม่ ขณะที่ค่ามัดจำขวดแก้วละ 5 บาท ที่คิดกับผู้ค้าปลีกใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ และมีการเรียกเก็บขวดแก้วกลับคืนไปจริงหรือไม่