เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ อ่อยรายได้รวมปีนี้โตเพียง 10% ต่ำเป้าที่คาดโต 30% มั่นใจกำไรสุทธิปีนี้โต 30% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท เหตุสินค้าของบริษัทมีมาร์จิ้นสูงถึง 80% มีการทำการตลาด ออกสินค้าใหม่ในช่วงปลายปี ทำให้ไตรมาส 4/55 กำไรสุทธิโตก้าวกระโดด “ผู้บริหาร” เผยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนกับบริษัทไทย 2 แห่ง คาดใช้เงินลงทุนแห่งละ 100 ล้านบาท สรุปปีหน้าดันกำไรสุทธิปี 56โตไม่ต่ำกว่า 30%
นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO ซึ่งประกอบธุริจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามจากสมุนไพรธรรมชาติครบวงจร เปิดเผยว่า รายได้รวมปีนี้คาดว่าจะโตประมาณ 10% จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 290.74 ล้านบาท เพราะแผนการจำหน่ายสินค้าของบริษัทในต่างประเทศยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เหตุยังติดเรื่องกระบวนการขอขึ้นทะเบียนเพื่อนำสินค้าไปจำหน่ายที่ต้องใช้เวลา แต่ในเรื่องของกำไรสุทธิในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ 30% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท เพราะบริษัททำการตลาดที่ชัดเจนมากขึ้น และสินค้าที่บริษัทมีการจำหน่ายนั้นมีอัตรากำไรขั้นต้น (กรอสมาร์จิ้น) ที่สูงถึง 80%
ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/55 นั้น บริษัทจะมีกำไรโตสูงที่สุด เพราะผลจากการทำตลาดมากขึ้น และออกสินค้าใหม่ B Tox Formula เป็นครีม และเซรั่มยกกระชับ ลดเลือนริ้วลอยบนใบหน้า ซึ่งเห็นผลอย่างรวดเร็วภายใน 5 นาที ซึ่งในช่วงทอลองตลาดนั้นมีผู้สนใจจองซื้อจำนวนมาก จนผลิตไม่ทันต่อความต้องการ โดยบริษัทจะทำการตลาดอย่างเป็นทางการต้นเดือนพฤศจิกายน ทำให้กำไรสุทธิปีนี้คาดจะอยู่ที่ 65 ล้านบาท จากช่วง 6 เดือนแรกของบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 23.30 ล้านบาท
สำหรับปัจจุบัน บริษัทมีแผนขยายตลาดผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ Operation BIM ในต่างประเทศ ซึ่งบริษัทได้ทำข้อตกลงร่วมกับพันธมิตรต่างประเทศในการร่วมกันเปิด บริษัท TH 17 เพื่อทำการตลาด และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันได้มีการเจรจาแล้ว 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา และอิตาลี ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรอื่นๆ ในประเทศฟิลิปปินส์ จีน ฮ่องกง ฯลฯ โดยบริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากการจำหน่ายในช่วงปลายไตรมาส 4/55 เป็นต้นไป และคาดว่าจะมีการเติบโตที่ดีในปี 56 โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าในประเทศ 80% และในต่างประเทศ 20% โดยในต่างประเทศที่บริษัทมีการจำหน่ายสินค้าแล้ว 6 ประเทศ กลุ่ม Operation BIM คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน อินเดีย และไต้หวัน
นายพิเชษฐ์กล่าวว่า จากการที่บริษัทมีกระแสเงินสดสูงถึง 200 ล้านบาทนั้น บริษัทมีแผนที่จะร่วมทุนกับบริษัทที่มีการทำธุรกิจใกล้เคียงกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา 2 บริษัทในประเทศ คาดใช้เงินลงทุนโครงการละ 100 ล้านบาท โดยการร่วมทุนนั้นเพื่อเป็นการแตกไลน์ และขยายช่องทางการตลาดของบริษัทให้มากขึ้น คาดว่าจะสรุปปี 56 และคาดว่าปีหน้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% และกำไรจะเติบโตในทิศทางเดียวกัน
นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO ซึ่งประกอบธุริจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามจากสมุนไพรธรรมชาติครบวงจร เปิดเผยว่า รายได้รวมปีนี้คาดว่าจะโตประมาณ 10% จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 290.74 ล้านบาท เพราะแผนการจำหน่ายสินค้าของบริษัทในต่างประเทศยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เหตุยังติดเรื่องกระบวนการขอขึ้นทะเบียนเพื่อนำสินค้าไปจำหน่ายที่ต้องใช้เวลา แต่ในเรื่องของกำไรสุทธิในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ 30% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท เพราะบริษัททำการตลาดที่ชัดเจนมากขึ้น และสินค้าที่บริษัทมีการจำหน่ายนั้นมีอัตรากำไรขั้นต้น (กรอสมาร์จิ้น) ที่สูงถึง 80%
ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/55 นั้น บริษัทจะมีกำไรโตสูงที่สุด เพราะผลจากการทำตลาดมากขึ้น และออกสินค้าใหม่ B Tox Formula เป็นครีม และเซรั่มยกกระชับ ลดเลือนริ้วลอยบนใบหน้า ซึ่งเห็นผลอย่างรวดเร็วภายใน 5 นาที ซึ่งในช่วงทอลองตลาดนั้นมีผู้สนใจจองซื้อจำนวนมาก จนผลิตไม่ทันต่อความต้องการ โดยบริษัทจะทำการตลาดอย่างเป็นทางการต้นเดือนพฤศจิกายน ทำให้กำไรสุทธิปีนี้คาดจะอยู่ที่ 65 ล้านบาท จากช่วง 6 เดือนแรกของบริษัทที่มีกำไรสุทธิ 23.30 ล้านบาท
สำหรับปัจจุบัน บริษัทมีแผนขยายตลาดผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ Operation BIM ในต่างประเทศ ซึ่งบริษัทได้ทำข้อตกลงร่วมกับพันธมิตรต่างประเทศในการร่วมกันเปิด บริษัท TH 17 เพื่อทำการตลาด และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันได้มีการเจรจาแล้ว 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา และอิตาลี ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรอื่นๆ ในประเทศฟิลิปปินส์ จีน ฮ่องกง ฯลฯ โดยบริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากการจำหน่ายในช่วงปลายไตรมาส 4/55 เป็นต้นไป และคาดว่าจะมีการเติบโตที่ดีในปี 56 โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าในประเทศ 80% และในต่างประเทศ 20% โดยในต่างประเทศที่บริษัทมีการจำหน่ายสินค้าแล้ว 6 ประเทศ กลุ่ม Operation BIM คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน อินเดีย และไต้หวัน
นายพิเชษฐ์กล่าวว่า จากการที่บริษัทมีกระแสเงินสดสูงถึง 200 ล้านบาทนั้น บริษัทมีแผนที่จะร่วมทุนกับบริษัทที่มีการทำธุรกิจใกล้เคียงกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา 2 บริษัทในประเทศ คาดใช้เงินลงทุนโครงการละ 100 ล้านบาท โดยการร่วมทุนนั้นเพื่อเป็นการแตกไลน์ และขยายช่องทางการตลาดของบริษัทให้มากขึ้น คาดว่าจะสรุปปี 56 และคาดว่าปีหน้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% และกำไรจะเติบโตในทิศทางเดียวกัน