กลุ่มทิสโก้ประเดิมประกาศผลดำเนินงานไตรมาส 3 มีกำไร 952.98 ล้าน เพิ่ม 6% จากรายได้ดอกเบี้ย-ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แต่ส่วนต่าง ดบ.ลด เหตุแข่งดุเงินฝาก
กลุ่มทิสโก้ประกาศผลกำไรประจำไตรมาส 3 ปี 2555 จำนวน 952.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.05 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีก่อน เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยรวมที่เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 25.6% แต่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงจากร้อยละ 3.5 ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 54 เป็นร้อยละ 3.1 จากต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะดอกเบี้ยในตลาด
ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 1,640.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 532.19 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 62.8% ตามการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อ และธุรกิจนายประกันภัย แต่หากรวมกำไรสุทธิจากเงินลงทุน และปริวรรตเงินตราแล้ว รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรวมมีจำนวน 1,762.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 614.87 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.6%
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2555 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิจำนวน 2,709.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118.65 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 2,590.72 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยรวมที่เพิ่มขึ้น 21.4% ตามการขยายตัวของสินเชื่อ ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงจากร้อยละ 4 มาเป็นร้อยละ 3.1 ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนเงินฝากที่สูงขึ้น และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าใช้จ่ายนำส่งกองทุนฟื้นฟูฯ และสถาบันประกันเงินฝาก
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนของเงินให้สินเชื่อปรับตัวลดลงเล็กน้อยจาก 6.9% ในไตรมาส 3 ปี 54 เป็น 6.8% ขณะที่ต้นทุนเงินทุนของกลุ่มทิสโก้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.4% ในไตรมาส 3 ปี 54 มาเป็น 3.7% ส่งผลให้ส่วต่างอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อปรับตัวลดลงจาก 3.5% ในไตรมาส 3 ปี 54 มาเป็น 3.1% ซึ่งเป็นระดับคงที่มาตั้งแต่ต้นปี 2555 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.9% โดยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของกลุ่มทิสโก้จะผันแปรตามปริมาณสภาพคล่องส่วนเกินในแต่ละช่วงเวลา
ด้านรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 1,175.54 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37.6% มาอยู่ที่ 4,305.76 ล้านบาท เป็นการเพิ่มจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ถึง 54.8% รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 2.2% ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมรวมของธุรกิจจัดการกองทุนอยู่ในระดับเดียวกันกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคาร ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2555 อยู่ที่ 1.2% ลดลงจากไตรมาส 2 ที่อยู่ในระดับ 1.3% เนื่องจากกลุ่มทิสโก้มีการบริหารจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพ และติดตามคุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิด
กลุ่มทิสโก้ประกาศผลกำไรประจำไตรมาส 3 ปี 2555 จำนวน 952.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.05 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีก่อน เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยรวมที่เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 25.6% แต่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงจากร้อยละ 3.5 ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 54 เป็นร้อยละ 3.1 จากต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะดอกเบี้ยในตลาด
ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 1,640.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 532.19 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 62.8% ตามการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อ และธุรกิจนายประกันภัย แต่หากรวมกำไรสุทธิจากเงินลงทุน และปริวรรตเงินตราแล้ว รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรวมมีจำนวน 1,762.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 614.87 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.6%
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2555 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิจำนวน 2,709.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118.65 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 2,590.72 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยรวมที่เพิ่มขึ้น 21.4% ตามการขยายตัวของสินเชื่อ ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงจากร้อยละ 4 มาเป็นร้อยละ 3.1 ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนเงินฝากที่สูงขึ้น และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าใช้จ่ายนำส่งกองทุนฟื้นฟูฯ และสถาบันประกันเงินฝาก
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนของเงินให้สินเชื่อปรับตัวลดลงเล็กน้อยจาก 6.9% ในไตรมาส 3 ปี 54 เป็น 6.8% ขณะที่ต้นทุนเงินทุนของกลุ่มทิสโก้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.4% ในไตรมาส 3 ปี 54 มาเป็น 3.7% ส่งผลให้ส่วต่างอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อปรับตัวลดลงจาก 3.5% ในไตรมาส 3 ปี 54 มาเป็น 3.1% ซึ่งเป็นระดับคงที่มาตั้งแต่ต้นปี 2555 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.9% โดยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของกลุ่มทิสโก้จะผันแปรตามปริมาณสภาพคล่องส่วนเกินในแต่ละช่วงเวลา
ด้านรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 1,175.54 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37.6% มาอยู่ที่ 4,305.76 ล้านบาท เป็นการเพิ่มจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ถึง 54.8% รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 2.2% ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมรวมของธุรกิจจัดการกองทุนอยู่ในระดับเดียวกันกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคาร ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2555 อยู่ที่ 1.2% ลดลงจากไตรมาส 2 ที่อยู่ในระดับ 1.3% เนื่องจากกลุ่มทิสโก้มีการบริหารจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพ และติดตามคุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิด
