หลักทรัพย์บัวหลวงได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรเป็น “AA-” จาก “A-” แนวโน้ม “Stable” จาก “Positive” จากทริสเรทติ้ง “พิเชษฐ” ย้ำมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างความน่าเชื่อถือ รวมทั้งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือสนับสนุนเพื่อการลงทุนอย่างไม่หยุดยั้ง เผยเตรียมออก DW 23 ตัวใหม่รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร พร้อมขาย 8 ตุลาคมนี้ หลังได้รับการตอบรับล้นหลามจากแฟนพันธุ์แท้ DW01
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลักทรัพย์บัวหลวงได้รับการประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรจากการจัดอันดับของบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นระดับ “AA-” จากเดิมที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Positive” หรือ “บวก”
ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากสถานะอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทในฐานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารกรุงเทพ สะท้อนถึงพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับของบริษัทในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และวาณิชธนกิจ ตลอดจนแนวทางการบริหารงานที่รอบคอบของคณะผู้บริหาร ความแข็งแกร่งทางการเงินจากการเป็นบริษัทในเครือของธนาคารกรุงเทพ รวมถึงศักยภาพในการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่กลุ่มธนาคารกรุงเทพมีอยู่อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ซึ่งสามารถสร้างการยอมรับ และเพิ่มความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า และนักลงทุนที่มีต่อหลักทรัพย์บัวหลวง ทั้งในด้านความมั่นคงทางการเงิน และความน่าเชื่อถือในด้านการดำเนินงานของบริษัท
“การได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของหลักทรัพย์บัวหลวง เป็นการตอกย้ำถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทต่อคู่ค้า ลูกค้า ตลอดจนผู้ลงทุนในตราสารการเงินที่ออกโดยหลักทรัพย์บัวหลวง ไม่ว่าจะเป็น DW หรือตราสารการเงินอื่นๆ ที่จะออกในอนาคต มั่นใจได้ว่า ตราสารการเงินดังกล่าวออกโดยผู้ออกตราสารที่มีอันดับเครดิตสูงในอุตสาหกรรม ด้วยความน่าเชื่อถือในการดำเนินงานของบริษัท และระบบบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพสูง” นายพิเชษฐกล่าว
อนึ่ง อันดับเครดิตองค์กร AA- ที่หลักทรัพย์บัวหลวงได้รับถือเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดในกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ที่จัดอันดับโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด
นอกจากนี้ หลักทรัพย์บัวหลวงยังเตรียมจะเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) จำนวน 23 ตัว รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร ทั้งประเภทสิทธิในการซื้อ (Call Warrant) และประเภทสิทธิในการขาย (Put Warrant) โดยอ้างอิงหุ้น BAY, BJC, BTS, CPALL, CPF, CPN, HMPRO, LH, PS, PTT, ROBINS, THAI และ TPIPL เริ่มทำการซื้อขายพร้อมกันในวันที่ 8 ตุลาคม 2555 โดยจุดเด่นของการเสนอขายครั้งนี้อยู่ที่ Call Warrant ที่อ้างอิงหุ้น บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) และบมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (ROBINS) และ Put Warrant ที่อ้างอิงกับหุ้น บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) และ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ที่บริษัทยังไม่เคยเสนอขายมาก่อน โดยบริษัทคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากหุ้นอ้างอิงทั้ง 4 ตัวดังกล่าวอยู่ในความสนใจของตลาดเป็นอย่างมาก
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลักทรัพย์บัวหลวงได้รับการประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรจากการจัดอันดับของบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นระดับ “AA-” จากเดิมที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Positive” หรือ “บวก”
ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากสถานะอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทในฐานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารกรุงเทพ สะท้อนถึงพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับของบริษัทในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และวาณิชธนกิจ ตลอดจนแนวทางการบริหารงานที่รอบคอบของคณะผู้บริหาร ความแข็งแกร่งทางการเงินจากการเป็นบริษัทในเครือของธนาคารกรุงเทพ รวมถึงศักยภาพในการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่กลุ่มธนาคารกรุงเทพมีอยู่อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ซึ่งสามารถสร้างการยอมรับ และเพิ่มความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า และนักลงทุนที่มีต่อหลักทรัพย์บัวหลวง ทั้งในด้านความมั่นคงทางการเงิน และความน่าเชื่อถือในด้านการดำเนินงานของบริษัท
“การได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของหลักทรัพย์บัวหลวง เป็นการตอกย้ำถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทต่อคู่ค้า ลูกค้า ตลอดจนผู้ลงทุนในตราสารการเงินที่ออกโดยหลักทรัพย์บัวหลวง ไม่ว่าจะเป็น DW หรือตราสารการเงินอื่นๆ ที่จะออกในอนาคต มั่นใจได้ว่า ตราสารการเงินดังกล่าวออกโดยผู้ออกตราสารที่มีอันดับเครดิตสูงในอุตสาหกรรม ด้วยความน่าเชื่อถือในการดำเนินงานของบริษัท และระบบบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพสูง” นายพิเชษฐกล่าว
อนึ่ง อันดับเครดิตองค์กร AA- ที่หลักทรัพย์บัวหลวงได้รับถือเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดในกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ที่จัดอันดับโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด
นอกจากนี้ หลักทรัพย์บัวหลวงยังเตรียมจะเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) จำนวน 23 ตัว รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร ทั้งประเภทสิทธิในการซื้อ (Call Warrant) และประเภทสิทธิในการขาย (Put Warrant) โดยอ้างอิงหุ้น BAY, BJC, BTS, CPALL, CPF, CPN, HMPRO, LH, PS, PTT, ROBINS, THAI และ TPIPL เริ่มทำการซื้อขายพร้อมกันในวันที่ 8 ตุลาคม 2555 โดยจุดเด่นของการเสนอขายครั้งนี้อยู่ที่ Call Warrant ที่อ้างอิงหุ้น บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) และบมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (ROBINS) และ Put Warrant ที่อ้างอิงกับหุ้น บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) และ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ที่บริษัทยังไม่เคยเสนอขายมาก่อน โดยบริษัทคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากหุ้นอ้างอิงทั้ง 4 ตัวดังกล่าวอยู่ในความสนใจของตลาดเป็นอย่างมาก
