“เอดีบี” ปรับลดประมาณการ ศก.ไทยปีนี้เหลือเพียง 5.2% ส่วนปีหน้า คาดเติบโตได้แค่ 5% ชี้ ปัจจัยหลักเกิดจาก “ส่งออก” ปรับลดลง ส่วนแรงกดดันเงินเฟ้อเริ่มลดลงตามแนวโน้มการขยายตัว ศก.โลก มองท่าที “กนง.” ยังคงนโยบายผ่อนคลายการเงินเพื่อกระตุ้น ศก. ขณะที่ภาพรวม “ศก.เอเชีย” หดตัวแรง ตามทิศทาง “จีน-อินเดีย” ที่ชะลอตัว
น.ส.ลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกร ธนาคารพัฒนาเอเซีย (เอดีบี) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ และแนวโน้มทางเศรษฐเอเชีย ฉบับล่าสุดในเดือนตุลาคม 2555 โดยระบุว่า เอดีบีได้มีการปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ประเทศไทยปีนี้ลดลงเหลือ 5.2% จากเดิมเมื่อเดือนเมษายน 2555 ที่คาดไว้ว่า 5.5% เนื่องจากเศรษฐกิจจีน อินเดีย และโลกชะลอตัว ทำให้การส่งออกไทยลดลง ซึ่งปีนี้คาดว่าการส่งออกไทยน่าจะโตประมาณ 5% ส่วนในปี 2556 จีดีพีไทยน่าจะโตได้ประมาณ 5% ลดลงจากครั้งก่อนที่ 5.5%
น.ส.ลัษมณ กล่าวเสริมว่า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ที่เศรษฐกิจโลกเป็นหลัก หากเศรษฐกิจยุโรป และจีนอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้น และหากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากประเทศไทยต้องมีการนำเข้าพลังงาน
ส่วนแรงกดดันเงินเฟ้อในช่วงนี้ คาดว่าจะน้อยลงตามการชะลอตัวของการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งทางเอดีบีได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลงเหลือร้อยละ 3 ในปีนี้ และร้อยละ 3.2 ในปี 2556 ซึ่งคาดว่า นโยบายของทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอ แรงกดดันเงินเฟ้อไม่สูง คาดว่าทาง กนง. เองก็พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยลง หากจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ เอดีบีได้ปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียในปีนีลงเหลือ 6.1% จากครั้งก่อนที่ 6.9% ส่วนปีหน้าลดลงเหลือ 6.7% จาก 7.3% ซึ่งการหดตัวทางเศรษฐกิจของจีน และอินเดีย พร้อมกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เป็นปัจจัยหลักของการปรับลดประมาณการทางเศรษฐกิจในครั้งนี้