อันตรายหุ้นรายตัว
ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอย่ในภาวะซบเซาถ้วนหน้า และอยู่ระหว่างการรอปัจจัยชี้นำเหมือนกัน เพียงแต่ตลาดหุ้นไทยอาจมีสีสันกว่า เพราะมีการจุดพลุหุ้นขนาดเล็กขึ้นมาเก็งกำไร บรรยากาศการซื้อขายจึงไม่เหงาเสียทีเดียว แต่หุ้นรายตัวก็ขยับขึ้นอย่างหวือหวา จนเริ่มมีความกังวลในความเสี่ยงมากขึ้น
ดัชนีวานนี้ปิดที่ 1,287.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด มูลค่าซื้อขาย 34,855 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 813 ล้านบาท
ตลาดหุ้นยุโรปคืนวันอังคารฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย และถือว่ายังแกว่งตัวช่วงแคบๆ อยู่ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ทรุดลงเกือบ 1% เนื่องจากความกังวลว่ามาตรการคิวอี3 อาจไม่ได้ผลกระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก ปัจจัยจากภายนอกจึงยังไม่เป็นบวก ขณะที่ปัจจัยภายในก็ยังไม่มีข่าวดีชิ้นใหม่ ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3 นักวิเคราะห์ก็ประเมินว่าจะไม่กระตุ้นตลาดมากนัก เพราะระดับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาสูงซึมซับรับข่าวไปล่วงหน้าแล้ว
แนวโน้มตลาดระยะสั้นจึงไม่น่าจะแตกต่างจากหลายวันที่ผ่านมาคือ เคลื่อนไหวในรอบแคบๆ และมีการจุดพลุหุ้นรายตัวเล่นกันต่อไป ซึ่งเริ่มมีคำเตือนกันมากขึ้นถึงความเสี่ยงในการตามแห่เก็งกำไร เพราะราคาหุ้นรายตัวร้อนแรงมากเกินไป ซึ่งหากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบอาจเกิดความผันผวนรุนแรงได้ จึงมีคำแนะนำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไร เพราะราคาขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดใหม่ขายทำกำไรได้ทุกคน แต่ถ้าเกิดความผันผวนรุนแรงจะขายออกกันไม่ทัน
ภาพใหญ่ของตลาดถูกจุดตันแล้ว ไม่อาจเดินหน้าได้มากนัก เหลือแต่หุ้นตัวเล็กที่แห่เก็งกำไรกัน แต่หุ้นตัวเล็กชีพจรความร้อนแรงสั้น และไม่รู้จะปิดรอบกันเมื่อไหร่ และถ้าปิดรอบใครจะเป็นผู้แบกต้นทุนครั้งสุดท้าย นักลงทุนลองนึกหาคำตอบดู
ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอย่ในภาวะซบเซาถ้วนหน้า และอยู่ระหว่างการรอปัจจัยชี้นำเหมือนกัน เพียงแต่ตลาดหุ้นไทยอาจมีสีสันกว่า เพราะมีการจุดพลุหุ้นขนาดเล็กขึ้นมาเก็งกำไร บรรยากาศการซื้อขายจึงไม่เหงาเสียทีเดียว แต่หุ้นรายตัวก็ขยับขึ้นอย่างหวือหวา จนเริ่มมีความกังวลในความเสี่ยงมากขึ้น
ดัชนีวานนี้ปิดที่ 1,287.41 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด มูลค่าซื้อขาย 34,855 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 813 ล้านบาท
ตลาดหุ้นยุโรปคืนวันอังคารฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย และถือว่ายังแกว่งตัวช่วงแคบๆ อยู่ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ทรุดลงเกือบ 1% เนื่องจากความกังวลว่ามาตรการคิวอี3 อาจไม่ได้ผลกระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก ปัจจัยจากภายนอกจึงยังไม่เป็นบวก ขณะที่ปัจจัยภายในก็ยังไม่มีข่าวดีชิ้นใหม่ ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3 นักวิเคราะห์ก็ประเมินว่าจะไม่กระตุ้นตลาดมากนัก เพราะระดับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาสูงซึมซับรับข่าวไปล่วงหน้าแล้ว
แนวโน้มตลาดระยะสั้นจึงไม่น่าจะแตกต่างจากหลายวันที่ผ่านมาคือ เคลื่อนไหวในรอบแคบๆ และมีการจุดพลุหุ้นรายตัวเล่นกันต่อไป ซึ่งเริ่มมีคำเตือนกันมากขึ้นถึงความเสี่ยงในการตามแห่เก็งกำไร เพราะราคาหุ้นรายตัวร้อนแรงมากเกินไป ซึ่งหากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบอาจเกิดความผันผวนรุนแรงได้ จึงมีคำแนะนำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไร เพราะราคาขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดใหม่ขายทำกำไรได้ทุกคน แต่ถ้าเกิดความผันผวนรุนแรงจะขายออกกันไม่ทัน
ภาพใหญ่ของตลาดถูกจุดตันแล้ว ไม่อาจเดินหน้าได้มากนัก เหลือแต่หุ้นตัวเล็กที่แห่เก็งกำไรกัน แต่หุ้นตัวเล็กชีพจรความร้อนแรงสั้น และไม่รู้จะปิดรอบกันเมื่อไหร่ และถ้าปิดรอบใครจะเป็นผู้แบกต้นทุนครั้งสุดท้าย นักลงทุนลองนึกหาคำตอบดู