xs
xsm
sm
md
lg

โปรเจค แพลนนิ่ง มั่นใจเทรดวันแรกพ้นจอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่ปรึกษาทางการเงินมั่นใจ หุ้น “โปรเจค แพลนนิ่ง” เทรดวันแรกราคาสูงกว่าราคาจอง เหตุเติบโตดี-ปันผลสูง-นักลงทุนตอบรับดี รวมถึงภาวะตลาดหุ้นเอื้อ “ผู้บริหาร” แจงปี 56 เดินหน้ารับงานต่างประเทศ เผยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรตั้งบริษัทร่วมทุนรับงานในสิงคโปร์ กัมพูชา มาเลเซีย และพม่า

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS ซึ่งประกอบธุรกิจศวกรที่ปรึกษาเพื่อรับให้คำปรึกษา และบริหารจัดการโครงการก่อสร้างสำหรับงานก่อสร้างแขนงต่างๆ เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าหุ้น โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิสฯ เข้าเทรดวันแรกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองที่ 0.70 บาท เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีการเติบโตต่อเนื่อง มีกระแสเงินสดที่สูง ซึ่งประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ คณะกรรมการก็จะมีการพิจารณาประชุมเรื่องการจ่ายเงินปันผล โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40%
 
นอกจากนี้ บริษัทมีหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำเพียง 0.40 เท่า และจากการที่บริษัทได้มีการไปนำเสนอข้อมูลใน 7 จังหวัด นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อจำนวนมาก และถือว่าเป็นหุ้นที่มีการกระจายหุ้นให้นักลงทุนบุคคลสูงที่สุดถึง 2,300 ราย ประกอบกับราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้มีส่วนลดให้นักลงทุนประมาณ 25% จากค่า P/E ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)

“บริษัทได้มีการพา PPS ไปโรดโชว์ 7 จังหวัด และโรดโชว์กับ 2 บล.คือ บล.ฟินันเซียไซรัส และ บล.พัฒนสิน ซึ่งนักลงทุนที่เข้าพบนนั้นเป้นนักลงทุนประเภทแวลูอินเวสเตอร์ที่มีการลงทุนรยะะยะกลาง และยาวนั้นให้ความสนใจของเข้ามาจองซื้อจำนวนมาก โดย PPS ถือว่าเป็นหุ้นโกรสสต๊อก และดีวิเดนยิลด์ ทำให้มั่นใจว่าเทรดวันแรกหุ้นของ PPS จะสามารถสูงกว่าราคาจองได้” นายสมภพกล่าว

นายประสงค์ ธาราไชย ประธานกรรมการบริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS กล่าวว่า การที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เนื่องจากต้องการที่จะได้ความน่าเชื่อถือ เพื่อที่จะออกไปรับงานในต่างประเทศ โดยบริษัทมีแผนที่จะไปรับงานที่สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา และพม่า ซึ่งที่ประเทศกัมพูชานั้นบริษัทจะรับงานในด้านการคุมงานก่อสร้างให้แก่บริษัทเบทาโกร ที่จะไปสร้างโรงงานที่กัมพูชา และขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทสิงคโปร์ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่จะรับงาน ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยงานต่างประเทศนั้นบริษัทจะมีการหาพันธมิตรในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ทั้งนี้ งานต่างประเทศนั้นบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ในปีหน้า

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปีละ 10% ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 270 ล้านบาท จากปี 2554 ที่มีรายได้รวม 256 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 20.44 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 133 ล้าบาท มีกำไรสุทธิ 8.30 ล้านบาท โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ (มาร์จิ้น) 8.30 ล้านบาท และบริษัทคาดว่าปีหน้าจะมีรายได้ประมาณ 317 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น