“ฟอร์จูนพาร์ท อินดัสตรี้ (FPI)” เคาะราคาขาย IPO หุ้นละ 3.50 บาท พร้อมแต่งตั้ง 5 โบรกเกอร์ บล.เคที ซีมิโก้-บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)-บล.โนมูระ พัฒนสิน-บล.เอเซียพลัส และ บล.โอเอส เค (ประเทศไทย) ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น เปิดจองซื้อ 10-12 กันยายน เข้าเทรดmaiวันที่ 20 ก.ย.นี้ ด้าน “ฟินันเซียไซรัส” ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินฯ ระบุ เป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน แถมมีดิสเคานต์ให้ผู้จองซื้อถึง 34.32% มั่นใจเสียงตอบรับท่วมท้น หลังเดินสายโรดโชว์ 3 จังหวัด นักลงทุนให้ความสนใจล้นหลาม ขณะที่ผู้บริหาร FPI การันตี หุ้นดี พื้นฐานแกร่ง อนาคตสดใสตามธุรกิจยานยนต์ ตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องปีละ 20%
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดราคาเสนอขายหุ้น ฟอร์จูน พาร์ท ที่ 3.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีค่า P/E ที่ 11.77 เท่า ซึ่งมีส่วนลดให้นักลงทุน 34.32% จากค่า P/E เฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ที่มีค่า P/E ที่ 17.92 เท่า
ทั้งนี้ บริษัทจะมีการเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในวันที่ 10-12 กันยายน 2555 จำนวน 63 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท แบ่งแสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปจำนวน 60 ล้านหุ้น และเสนอขายกรรมการและพนักงานจำนวน 3 ล้านหุ้น และเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ วันที่ 20 กันยายน 2555
โดยบริษัทมั่นใจว่า หุ้นของ ฟอร์จูน พาร์ทฯ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมากในวันเข้าซื้อขายวันแรก จากจำนวนหุ้นที่เสนอขายไม่มาก ประกอบกับ บริษัทมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง ตามทิศทางของธุรกิจยานยนต์ที่ยังมีอนาคตสดใส อีกทั้งยังมีดิสเคานต์ให้นักลงทุนประมาณ 34.32% และจากที่บริษัทได้มีการไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ใน 3 จังหวัด คือ สงขลา เชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร ปรากฎว่ามีนักลงทุนสนใจเข้าร่วมรับฟังข้อมูลเป็นจำนวนมาก
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตจากพลาสติก กล่าวว่า ราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้ของบริษัทที่ 3.50 บาทต่อหุ้นนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นราคาที่ต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตมากขึ้น แต่บริษัทถือว่าเป็นการให้ผลตอบแทนแก่พนักงานงานของบริษัท และเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จำนวน 220 ล้านบาท บริษัทจะนำไปใช้ลงทุนขยายโรงงาน และคลังสินค้า ซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม คืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% จาก ปี 2554 ที่มีรายได้รวม 1,300.37 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวม 735.38 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 62.93 ล้านบาท และปกติของธุรกิจบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเติบโตมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก และบริษัทหันมาเน้นในการผลิตสินค้าที่มีการออกแบบที่ดีเพื่อใช้ในการตกแต่งรถยนต์ และหากเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อที่จะทำให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นมากขึ้น ซึ่งบริษัทคาดว่าในปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ประมาณ 8-9% ทำให้กำไรสุทธิปีนี้ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเติบโตกว่าครึ่งปีแรก
“FPI ถือเป็นบริษัทแรกของประเทศไทย และรายแรกของจังหวัดปทุมธานีที่จะได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายใต้โครงการ “หุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัด” ซึ่งเป็นโครงการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของบริษัท และรางวัลเกียรติยศนี้น่าจะเป็นดัชนีที่สะท้อนในเห็นถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทได้ในระดับหนึ่ง” นายสมพลกล่าว