แพรนด้าฯ ตั้งเป้าปี 58 เป็นผู้นำตลาดค้าปลีกเครื่องประดับในตลาด AEC ทุ่มงบลงทุน 450 ล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า ขยายสาขาจำหน่ายสินค้าแบรนด์ตนเองรองรับ AEC รุกตลาดอินโดนีเซีย และเวียดนาม พร้อมดูลู่ทางการทำตลาดในพม่า
นายชนัตถ์ สรไกรกิติกูล กรรมการบริหาร และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ (สายตลาด) บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ PRANDA เปิดเผยแผนดำเนินธุรกิจรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ปี 2558 ว่า บริษัทฯ จะให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจค้าปลีกแบรนด์ของตนเองในกลุ่มประเทศ AEC จากเดิมที่มีอยู่ 160 สาขา เพิ่มเป็น 250 สาขา ภายใน 3 ปี เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับในตลาด AEC
บริษัทฯ ตั้งงบลงทุน 3 ปีข้างหน้า (2556-2558) อยู่ที่ 450 ล้านบาท เพื่อขยายจุดจำหน่ายสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นประเทศที่ตลาดมีศักยภาพและกำลังซื้อสูง โดยปัจจุบัน มีจุดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ตนเองที่เวียดนาม 4 จุดจำหน่าย เพิ่มเป็น 16 จุดจำหน่าย และอินโดนีเซีย 50 จุดจำหน่าย เพิ่มเป็น 120 จุดจำหน่าย เน้นสินค้าแบรนด์ Prima Gold ที่เวียดนามและแบรนด์ Julia ที่อินโดนีเซีย
“3 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนในอาเซียน 450 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในไทย 240 ล้านบาท อินโดนีเซีย 142 ล้านบาท และเวียดนาม 78 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายจุดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายธุรกิจค้าปลีกแบรนด์ตนเองในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นจาก 970 ล้านบาท เป็น 1,590 ล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า มาจากยอดขายในไทย 1,150 ล้านบาท อินโดนีเซีย 308 ล้านบาท และเวียดนาม 120 ล้านบาท”
จากนโยบายการรุกตลาดค้าปลีกภายใต้แบรนด์ตนเองในอาเซียน ทำให้โครงสร้างรายได้บริษัทฯ ใน 3 ปีข้างหน้าจะเปลี่ยนไป โดยรายได้หลักมาจากตลาดเอเชีย 50% สหรัฐอเมริกา 25% และยุโรป 25% จากปีนี้ที่โครงสร้างรายได้มาจากสหรัฐฯ 35% ยุโรป 30% ที่เหลือมาจากเอเชีย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เข้าไปดูลู่ทางการทำธุรกิจในพม่า คาดว่าจะเริ่มทำตลาดได้ในปี 2557 ขณะที่จีนยังคงมีการลงทุนอยู่เพื่อขยายจุดจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติมในเซินเจิ้น แม้ว่าจะประสบปัญหาภาษีที่ถูกจัดเก็บสูงกว่าผู้ประกอบการในประเทศก็ตาม ขณะเดียวกัน ก็ลดขนาดโรงงานผลิตเครื่องประดับในจีนลงด้วย ส่วนอินเดียพบว่า ยอดขายในปีนี้อยู่ที่ 250 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายดุษิต จงสุทธนามณี กรรมการการเงิน บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ คงเป้าหมายยอดขายเติบโตขึ้น 5% จากปีก่อนที่มียอดขายรวม 4 พันล้านบาท แม้ว่าตลาดยุโรปยอดขายจะลดลงเล็กน้อย แต่ตลาดสหรัฐฯ ดีขึ้น สำหรับกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้น่าจะสูงกว่าปีก่อน หลังรุกตลาดสินค้าแบรนด์ตนเองทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 34% จากปีก่อนอยู่ที่ 33% และภายใน 3 ปีนี้ คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มเป็น 36-37%
ส่วนแผนการจัดหาเงินทุนรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ บริษัทฯ ได้กู้เงิน 500 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย เพื่อใช้สร้างอาคารสำนักงานใหม่ 200 ล้านบาท และที่เหลือใช้ขยายธุรกิจ โดยอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำอยู่ที่ 0.7 เท่า
นายชนัตถ์ สรไกรกิติกูล กรรมการบริหาร และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ (สายตลาด) บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ PRANDA เปิดเผยแผนดำเนินธุรกิจรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ปี 2558 ว่า บริษัทฯ จะให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจค้าปลีกแบรนด์ของตนเองในกลุ่มประเทศ AEC จากเดิมที่มีอยู่ 160 สาขา เพิ่มเป็น 250 สาขา ภายใน 3 ปี เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับในตลาด AEC
บริษัทฯ ตั้งงบลงทุน 3 ปีข้างหน้า (2556-2558) อยู่ที่ 450 ล้านบาท เพื่อขยายจุดจำหน่ายสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม และอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นประเทศที่ตลาดมีศักยภาพและกำลังซื้อสูง โดยปัจจุบัน มีจุดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ตนเองที่เวียดนาม 4 จุดจำหน่าย เพิ่มเป็น 16 จุดจำหน่าย และอินโดนีเซีย 50 จุดจำหน่าย เพิ่มเป็น 120 จุดจำหน่าย เน้นสินค้าแบรนด์ Prima Gold ที่เวียดนามและแบรนด์ Julia ที่อินโดนีเซีย
“3 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนในอาเซียน 450 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในไทย 240 ล้านบาท อินโดนีเซีย 142 ล้านบาท และเวียดนาม 78 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายจุดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายธุรกิจค้าปลีกแบรนด์ตนเองในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นจาก 970 ล้านบาท เป็น 1,590 ล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า มาจากยอดขายในไทย 1,150 ล้านบาท อินโดนีเซีย 308 ล้านบาท และเวียดนาม 120 ล้านบาท”
จากนโยบายการรุกตลาดค้าปลีกภายใต้แบรนด์ตนเองในอาเซียน ทำให้โครงสร้างรายได้บริษัทฯ ใน 3 ปีข้างหน้าจะเปลี่ยนไป โดยรายได้หลักมาจากตลาดเอเชีย 50% สหรัฐอเมริกา 25% และยุโรป 25% จากปีนี้ที่โครงสร้างรายได้มาจากสหรัฐฯ 35% ยุโรป 30% ที่เหลือมาจากเอเชีย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เข้าไปดูลู่ทางการทำธุรกิจในพม่า คาดว่าจะเริ่มทำตลาดได้ในปี 2557 ขณะที่จีนยังคงมีการลงทุนอยู่เพื่อขยายจุดจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติมในเซินเจิ้น แม้ว่าจะประสบปัญหาภาษีที่ถูกจัดเก็บสูงกว่าผู้ประกอบการในประเทศก็ตาม ขณะเดียวกัน ก็ลดขนาดโรงงานผลิตเครื่องประดับในจีนลงด้วย ส่วนอินเดียพบว่า ยอดขายในปีนี้อยู่ที่ 250 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายดุษิต จงสุทธนามณี กรรมการการเงิน บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ คงเป้าหมายยอดขายเติบโตขึ้น 5% จากปีก่อนที่มียอดขายรวม 4 พันล้านบาท แม้ว่าตลาดยุโรปยอดขายจะลดลงเล็กน้อย แต่ตลาดสหรัฐฯ ดีขึ้น สำหรับกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้น่าจะสูงกว่าปีก่อน หลังรุกตลาดสินค้าแบรนด์ตนเองทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 34% จากปีก่อนอยู่ที่ 33% และภายใน 3 ปีนี้ คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มเป็น 36-37%
ส่วนแผนการจัดหาเงินทุนรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ บริษัทฯ ได้กู้เงิน 500 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย เพื่อใช้สร้างอาคารสำนักงานใหม่ 200 ล้านบาท และที่เหลือใช้ขยายธุรกิจ โดยอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำอยู่ที่ 0.7 เท่า