xs
xsm
sm
md
lg

ตลท. ยัน BEX พร้อมเป็นตลาดรอง-เสริมสภาพคล่อง “บอนด์” ก.คลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จรัมพร  โชติกเสถียร
ผู้จัดการ ตลท. เผย ตลาดตราสารหนี้ BEX ในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมเป็นตลาดรองสำหรับพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษของกระทรวงการคลัง 2 แสนล้านบาท ที่จะเปิดจำหน่ายเดือน ก.ย. นี้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.เตรียมความพร้อมนำพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ ปีงบประมาณ 2555 ของกระทรวงการคลัง วงเงิน 8 หมื่นล้านบาทที่จะเปิดจำหน่ายในเดือน ก.ย.เข้าจดทะเบียนในตลาดตราสารหนี้ (Bond Electronic Exchange: BEX) ภายใต้กลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้ลงทุนและผู้ออมสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนพันธบัตรออมทรัพย์ในตลาดรองได้อย่างสะดวก โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ที่พร้อมให้บริการซื้อขาย และชำระราคาผ่านระบบงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ

“มองว่า BEX มีความพร้อมในการเป็นตลาดรองสำหรับการซื้อขายพันธบัตรและตราสารหนี้ทุกประเภท ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรฐานสากล ทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม”

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทั้ง 38 บริษัท ซึ่งการนำพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษของกระทรวงการคลัง เข้าจดทะเบียนใน BEX จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้พันธบัตรดังกล่าว เป็นการเพิ่มโอกาสการลงทุนให้ผู้ออมสามารถซื้อพันธบัตรหลังจากปิดการจำหน่ายไปแล้ว และขายพันธบัตรได้ก่อนครบกำหนดอายุ

นอกจากนี้ กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังให้บริการครบวงจร โดยบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ทำหน้าที่ให้บริการชำระราคา และส่งมอบหลักทรัพย์ตราสารหนี้ รวมทั้งให้บริการรับฝากตราสารหนี้ในระบบไร้ใบหลักทรัพย์ (Scripless) โดยพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษของของกระทรวงการคลังรอบนี้ถือเป็นพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นแรกที่เป็น Scripless ของประเทศไทย

ปัจจุบัน ตราสารหนี้ที่ซื้อขายอยู่ใน BEX มีจำนวน 637 รุ่น แบ่งเป็น พันธบัตรรัฐบาล 69 รุ่น พันธบัตรรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐ 471 รุ่น หุ้นกู้ภาคเอกชน 96 รุ่น พันธบัตรเอเชีย 1 รุ่น (ข้อมูล ณ 15 ส.ค.2555) สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายตราสารหนี้สูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ บล.ธนชาต บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) บล.เอเซีย พลัส บล.บัวหลวง และบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)


กำลังโหลดความคิดเห็น