ASTVผู้จัดการรายวัน - คลังทาบ “ธัชพล กาญจนกูล” ไปนั่งเก้าอี้เอ็มดีแบงก์กรุงไทย หลังชื่อ “วรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี” เอ็มดี ธอส.โผล่เป็นแคนดิเดต ผอ.ออมสิน แต่เจ้าตัวลั่นต้องการอยู่ที่แบงก์ออมสินต่อไป เพื่อพัฒนาการเงินระดับฐานราก และยกระดับองค์กรให้มีมาตรฐานสากล
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้บริหารในกระทรวงการคลังได้มีการติดต่อทาบทาม นายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารออมสิน รักษาการผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน ให้ไปสมัครชิงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB แทนนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่จะหมดวาระในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากที่คณะกรรมการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ได้ขยายเวลารับสมัครออกไปถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2555
อย่างไรก็ตาม นายธัชพล อยู่ระหว่างเตรียมลงสมัครเข้าสู่กระบวนการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวอย่างต่อเนื่องว่า มีคู่แข่งที่สำคัญ คือ นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จะสมัครเข้าสู่กระบวนการสรรหาในตำแหน่งนี้เช่นเดียวกัน และได้รับไฟเขียวจากผู้มีอำนาจของรัฐบาลให้ได้รับตำแหน่งนี้ไปแล้วอย่างแน่นอน ทางกระทรวงการคลังจึงเตรียมหาตำแหน่งที่มีความเหมาะสมไว้รองรับนายธัชพลแทน
“ตอนแรกคาดว่า นายธัชพล จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาผู้อำนวยการธนาคารออมสินโดยไม่มีคู่แข่งที่น่ากลัว แต่มีรายชื่อนายวรวิทย์เข้ามาเป็นคู่แข่ง ทางผู้ใหญ่ในกระทรวงการคลังจึงหาเก้าอี้อื่นที่เหมาะสมไว้รองรับ แต่ทั้งนี้ นายธัชพลซึ่งทำงานที่ธนาคารออมสินมานาน และมีความผูกพันกับองค์กร จึงอยากทำงานที่ธนาคารออมสินต่อไป ซึ่งในขณะนี้ อยู่ระหว่างเจรจาว่าจะให้ใครรับตำแหน่งธนาคารของรัฐบาลอันดับ 1 แห่งนี้”
แหล่งข่าวกล่าวว่า แม้ว่าจะมีการทาบทามให้ นายธัชพล ไปรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย แต่นายธัชพลมีความต้องการที่จะอยู่ที่ธนาคารออมสินมากกว่า เพื่อพัฒนาธนาคารออมสินให้สู่เป้าหมายการเป็นธนาคารของรัฐเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล พัฒนาระบบการเงินระดับฐานรากให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ รวมทั้งยกระดับองค์กรให้มีความเป็นสากล
ก่อนหน้านี้ นายธัชพล ได้แสดงวิสัยทัศน์ในช่วงครึ่งปีหลังว่า ออมสินจะมุ่งให้ความสำคัญด้านบริการอย่างมีคุณภาพ โดยจะให้นโยบายด้านคุณภาพแก่ผู้บริหาร และพนักงาน สำหรับงานด้านการบริหารสินทรัพย์ การบริหาร และพัฒนาบุคลากร และงานด้านบริการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายในทุกด้าน พร้อมกับหวังเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมจากธุรกิจที่มีใบอนุญาต เช่น นายหน้าประกันภัย ธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงเพิ่มปริมาณเงินลงทุนในหลักทรัพย์ซึ่ง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 อยู่ที่ 218,731 ล้านบาท โดยที่มีเครือข่ายช่องทางการให้บริการของธนาคารออมสินที่พร้อมจะมุ่งนำนโยบายดังกล่าวไปสู่เป้าหมาย ผ่านสาขาให้บริการเต็มรูปแบบจำนวน 888 แห่ง หน่วยให้บริการบนอำเภออีก 43 แห่ง
ขณะที่เครื่องให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ และตู้เอทีเอ็ม มีจำนวน 3,865 เครื่อง หน่วยให้บริการเคลื่อนที่ (ธนาคารเรือ และรถตู้) จำนวน 92 หน่วย มีธนาคารโรงเรียนธนาคารออมสิน เพื่อปลูกฝังการออมตั้งแต่วัยเด็กผ่านสถานศึกษาอีก 661 แห่งทั่วประเทศ ยกระดับกองทุนหมู่บ้านขึ้นเป็นสถาบันการเงินชุมชนเป็น 26,948 แห่ง อบรมที่ปรึกษาทางการเงินประจำหมู่บ้าน (หมอหนี้) มีจำนวนเพิ่มเป็น 121,803 คน
“ออมสินจะดำเนินงานภายใต้ภารกิจมุ่งส่งเสริมการออม และสร้างวินัยทางการเงินในภาคประชาชน พร้อมกับการทำหน้าที่เป็นแหล่งทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานราก รวมถึงรองรับความต้องการเข้าถึงแหล่งทุนตามนโยบายรัฐบาล ทั้งหมดดำเนินภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นสถาบันการเงินที่มั่นคงเพื่อการออม และเป็นผู้นำในการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และธรรมาภิบาล” นายธัชพลกล่าวในที่สุด.
