ปธ.วิปรัฐ ค้านโหวตแก้ รธน.วันนี้ แนะลงมติสัปดาห์หน้า -ไม่ดันปรองดองเข้าสภาสมัยนี้

ประธานวิปรัฐบาล หนุนไม่โหวตวาระ 3 แก้รัฐธรรมนูญวันนี้ ระบุยังขัดแย้งอยู่ หวั่นถูกตีความได้อีก โยน "ค้อนปลอม" นัดวัน แต่แนะควรสัปดาห์หน้า เชื่ออัยการสูงสุดแจงไม่มีผลผูกพันต่อการพิจารณาของศาล โยนรัฐบาลดูปิดประชุมสภา แต่คอนเฟิร์มไม่ดันปรองดองเข้าอีกในสมัยสามัญ

วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 08.30 น. นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล (วิปรัฐบาล)กล่าวว่า การประชุมร่วมรัฐสภาในวันนี้(8มิ.ย.) มีคนเสนอความเห็นให้ตัดสินใจว่ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ชะลอการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ไม่อยู่ในความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ตนและคณะชี้แจงว่าเมื่อประธานรัฐสภา ไม่บรรจุให้อยู่ในวาระการประชุมร่วมรัฐสภา ก็ควรหลีกเลี่ยง แม้จะเป็นสิทธิของสมาชิกรัฐสภาก็ตาม แต่ไม่ควรทำ และที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ความเห็นเรื่องการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญมาพอสมควร และถ้าหากถือโอกาสใช้เสียงข้างมากดำเนินการส่วนนี้ ก็จะเป็นเหตุให้ผู้ที่ตั้งใจดึงเรื่อง และผู้ที่ไม่เห็นด้วยสามารถยื่นเรื่องให้ตีความได้อีก ทั้งนี้คนที่จะวินิจฉัยเรื่องนี้กำลังเป็นคู่ขัดแย้งทางความคิดกันอยู่ การลงมติในวาระ 3 ก็ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้เมื่อการลงมติไม่เกิดขึ้นในวันนี้

เมื่อถามว่า จะมีการลงมติในวันที่ 13 - 14 มิ.ย.นี้หรือไม่ นายอุดมเดช กล่าวว่า การลงมติครั้งต่อไปก็จะอยู่ที่อำนาจของประธานรัฐสภา ซึ่งระยะเวลาที่มีความเหมาะสมที่จะลงมติก็ควรเป็นสัปดาห์หน้า เพราะที่ผ่านมาก็ใช้เวลามากแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับบรรยากาศของสมาชิกด้วยว่าจะมีความเห็นอย่างไร

เมื่อถามว่า กรณีที่อัยการสูงสุด มีความเห็นไม่ส่งคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 มีความเห็นอย่างไร นายอุดมเดช กล่าวว่า หากอัยการสูงสุดออกมาแบบนี้ ตนเห็นว่าวันนี้ในสังคมไทยยังมีความเคารพกันอยู่ และยังไม่เห็นความแตกแยกระดับองค์กรหรือระดับสถาบัน สมาชิกรัฐสภาทุกคนยังมีความรู้สึกดีต่อการทำหน้าที่ที่หลากหลายขององค์กรต่างๆ ส่วนการนำไปสู่การตีความเรื่องนี้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 นั้น หลายคนก็ยังยืนยันว่าต้องผ่านความเห็นชอบของอัยการสูงสุดก่อน แต่ว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเช่นนี้ และความเห็นของอัยการสูงที่แถลงนั้น เชื่อว่าจะไม่มีผลผูกพันกับการที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ไม่มีการเอาสถาบันไปหักล้างกัน และหากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า ประชาชนสามารถยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้นั้น ต่อไปก็จะไม่มีใครมายื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดอีก

เมื่อถามว่า จะมีการยื่นพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมสมัยสามัญนิติบัญญัติหรือไม่ นายอุดมเดช กล่าวว่า ก็มีผู้เสนอมาแล้ว แต่จะพิจารณาหรือไม่ก็ต้องอยู่ดุลพินิจของรัฐบาลว่าพิจารณากฎหมายที่ต้องการเสร็จสิ้นแล้วหรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการนำร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ..เข้าสู่การประชุมสภาฯ ในสมัยนี้อีก