ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ ไตรมาส 2 ปีนี้กำไรหด เหตุราคาพีวีซีตก ขณะที่ไตรมาสนี้ปีก่อนราคาพีวีซีพุ่งสูง จึงเกิดส่วนต่างอย่างชัดเจน ส่งผลให้รายได้ไตรมาสนี้ต่ำกว่างวดนี้ปีก่อนเล็กน้อย
น.ส.วาสนา ต.รุ่งเรือง ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มสนับสนุนธุรกิจ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPC แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ว่า มีกำไรสุทธิ 681.24 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 766.25 ล้านบาท หรือลดลง 85 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 11% ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้น จากปริมาณการขาย และอัตราค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย และการให้บริการรวม 7,654 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 247 ล้านบาท หรือ 3% ส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาขายที่ลดลง เพราะตลาดพีวีซีโดยดรวมในไตรมาสนี้ราคาต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ราคาพีวีซีปรับตัวสูงขึ้นตามราคาวีซีเอ็ม ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่มีภาวะตึงตัวจากอุปทานในประเทศญี่ปุ่นที่ลดลง จากเหตุแผ่นดินไหว และสึนามิ
อีกทั้งโรงงานวีซีเอ็มในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประสบปัญหาการผลิต ประกอบกับภาวะตลาดไวนิลในไตรมาสนี้ ราคาอีดีซีปรับตัวลดลง และความต้องการพีวีซีในตลาดต่างประเทศที่ลดลงจากผลกระทบด้านปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยุโรป ส่งผลให้ราคาพีวีซีเฉลี่ยไตรมาส 2 ปี 55 อยู่ที่ 1,035 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 1,175 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
สำหรับสัดส่วนรายได้จาการขาย และการให้บริการมาจากธุรกิจพีวีซี 64% จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพีซีวี 34% และรายได้อื่นๆ 2% ตามลำดับ โดยสัดส่วนรายได้การให้บริการ 83% เป็นของบริษัทในประเทศไทย และ 17% เป็นของบริษัทย่อยในต่างประเทศ
จากผลงานข้างต้น ส่งผลให้ TPC มีรายได้จากการขาย และให้บริการรวม 15,215 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4%
น.ส.วาสนา ต.รุ่งเรือง ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มสนับสนุนธุรกิจ บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPC แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ว่า มีกำไรสุทธิ 681.24 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 766.25 ล้านบาท หรือลดลง 85 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 11% ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้น จากปริมาณการขาย และอัตราค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย และการให้บริการรวม 7,654 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 247 ล้านบาท หรือ 3% ส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาขายที่ลดลง เพราะตลาดพีวีซีโดยดรวมในไตรมาสนี้ราคาต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ราคาพีวีซีปรับตัวสูงขึ้นตามราคาวีซีเอ็ม ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่มีภาวะตึงตัวจากอุปทานในประเทศญี่ปุ่นที่ลดลง จากเหตุแผ่นดินไหว และสึนามิ
อีกทั้งโรงงานวีซีเอ็มในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประสบปัญหาการผลิต ประกอบกับภาวะตลาดไวนิลในไตรมาสนี้ ราคาอีดีซีปรับตัวลดลง และความต้องการพีวีซีในตลาดต่างประเทศที่ลดลงจากผลกระทบด้านปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยุโรป ส่งผลให้ราคาพีวีซีเฉลี่ยไตรมาส 2 ปี 55 อยู่ที่ 1,035 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 1,175 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
สำหรับสัดส่วนรายได้จาการขาย และการให้บริการมาจากธุรกิจพีวีซี 64% จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพีซีวี 34% และรายได้อื่นๆ 2% ตามลำดับ โดยสัดส่วนรายได้การให้บริการ 83% เป็นของบริษัทในประเทศไทย และ 17% เป็นของบริษัทย่อยในต่างประเทศ
จากผลงานข้างต้น ส่งผลให้ TPC มีรายได้จากการขาย และให้บริการรวม 15,215 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4%