ทิสโก้ปลื้ม สินเชื่อครึ่งปีแรกเติบโต เตรียมปรับเป้าเป็น 18-20% จากเดิม 15% พร้อมเตียมออกหุ้นกู้อีก 1-1.5 พันล้าน ลุยปล่อยกู้ต่อ
นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา ธนาคารมีอัตราการเติบโตของสินเชื่อในระดับที่ดีมาก โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2555 มียอดสินเชื่อรวม 209,969.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2554 และเพิ่มขึ้น 7.9% จากสิ้นไตรมาสแรก จึงมั่นใจว่า สินเชื่อทั้งปีจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% และในช่วงที่เหลือของปี น่าจะปรับเป้าหมายเติบโตสินเชื่อเพิ่มเป็น 18-20%
“สินเชื่อที่เติบโตได้ดีเป็นไปตามการลงทุน และการบริโภคที่ขยายตัวได้ดีเช่นกัน ถ้าไม่ใช่การโตจากการเก็งกำไร ก็ไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งปัจจุบัน ยอดเอ็นพีแอลของธนาคารอยู่ในระดับ 1.3% ถือว่าต่ำที่สุดในระบบ ส่วนผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปนั้น คงเป็นผลกระทบทางอ้อมที่ผู้ประกอบการโดยมากสามารถปรับตัวได้ทัน”
นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO)กล่าวว่า ในส่วนของเงินฝาก แม้ว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ธุรกิจธนาคารจะได้รับผลกระทบจากกฏระเบียบใหม่ๆ รวมถึงมีการแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ย แต่ในส่วนของทิสโก้ยังคงรักษาการเติบโตได้ดี โดยเงินฝากรวมทุกประเภทมีการเติบโต 2.4% จากสิ้นปี 2554 โดยเงินฝากออมทรัพย์เพิ่มขึ้น 42.6% และเงินฝากประจำเพิ่มขึ้น 207.1% ซึ่งเป็นไปตามแผนการลดตั๋วแลกเงินของธนาคาร ที่ปัจจุบันมีอยู่ในสัดส่วน 50% ของยอดเงินฝากรวม และคาดว่าจะเหลือ 25-30%
ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อ โดยเฉพาะธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งได้รับผลบวกจากตลาดรถยนต์ที่คาดว่าปีนี้จะมียอดขายสูงถึง 1 ล้านคัน ส่งผลให้สินเชื่อเช่าซื้อมีทิศทางการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อเช่าซื้อมีการขยายตัวอยู่ที่ 10.2% จากสิ้นปี 2554 และสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ TISCO Auto Cash มีการเติบโตที่ 18.9% ขณะที่สินเชื่อธุรกิจก็มีการเติบโตที่โดดเด่นเช่นกัน โดยมีการเติบโตถึง 21.5% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อในกลุ่มสาธารณูปโภค และการบริการ และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมเติบโต 35.0% จากสิ้นปี 2554
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีธนาคารมีโครงการจะออกหุ้นกู้ในวงเงินประมาณ 1-1.5 พันล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง ซึ่งก็ถือว่าเป็นช่วงจังหวะที่ดี เนื่องจากคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวในระดับ 3% นี้จนถึงสิ้นปี เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลง แต่ยังมีความกังวลจากเศรษฐกิจยุโรปอยู่
“แม้ว่าเงินฝากของธนาคารจะเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าการขยายตัวของสินเชื่อ แต่ขณะนี้ ธนาคารก็ยังมีสภาพคล่องที่เพียงพอต่อการขยายสินเชื่ออยู่ เนื่องจากในช่วงต้นปี ได้เตรียมเงินสำรองส่วนหนึ่งไว้เพื่อรองรับการลดวงเงินรับประกันเงินฝาก โดยมีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่ประมาณ 1 หมื่นล้าน”
