xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ถือหุ้นการบินไทยร้อง ก.ล.ต.สอบ “โชคชัย” จงใจให้ข่าวเท็จทำตัวเลขผลประกอบการสับสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
ผู้ถือหุ้นการบินไทยร้อง ก.ล.ต.ตรวจสอบรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บอร์ด และผู้เกี่ยวข้อง เหตุจงใจให้ข่าวเท็จ สร้างความสับสนแก่ผู้ถือหุ้น และสาธารณชน ฝ่าฝืนพ.ร.บ.หลักทรัพย์ ระบุหากผิดมีสิทธิ์ติดคุกถึง 2 ปี

วันนี้ (6 ก.ค.) นายมนต์ชัย ราบรื่นทวีสุข พร้อมด้วยผู้ถือหุ้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวนหนึ่ง ได้ยื่นร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบงบการเงิน บมจ.การบินไทย และพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อนายโชคชัย ปัญญายงค์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และคณะกรรมการ (บอร์ด) บมจ.การบินไทย และบุคคลอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีการกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์) เกี่ยวกับการแถลงข่าวว่าการบินไทยมีกำไรสุทธิ 3,517 ล้านบาททั้งๆ ที่ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่ามีกำไรสุทธิ 3,645 บาท ซึ่งหากพบว่านายโชคชัยให้ข้อมูลอันเป็นเท็จก็ถือว่าได้ทำความผิดตามมาตรา 238 ซึ่งอาจจะได้รับโทษโดยการต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกินสองเท่าของผลประโยชน์ที่บุคคลนั้นๆ ได้รับไว้ หรือพึงจะได้รับฯ หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยนายมนต์ชัยกล่าวว่า จากที่นายโชคชัย ปัญญายงค์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย ได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2555 ว่าผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้ของการบินไทยมีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และภาษีเงินได้ 3,162 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 18.8% และมีกำไรสุทธิ 3,517 ล้านบาท และนายโชคชัยยังกล่าวต่อไปว่า “ก่อนหน้านี้มีความสับสนเกี่ยวกับตัวเลขผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ซึ่งระบุว่า มีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และภาษีเงินได้ 3,341 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,645 ล้านบาท จึงต้องชี้แจงให้เข้าใจตรงกัน” โดยได้เผยแพร่ในสื่อต่างๆ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2555

ในฐานะผู้ถือหุ้นของ บมจ.การบินไทย จึงได้ตรวจสอบคำแถลงข่าวของ บมจ.การบินไทยเกี่ยวกับผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2555 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2555 และผลประกอบการที่รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ระบุว่า “บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ไตรมาส 1 ปีบัญชี 2555 บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานในระดับดี กล่าวคือ มีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และภาษีเงินได้ 3,341 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,645 ล้านบาท” เห็นว่าข้อมูลจากสองแหล่งมีความสอดคล้องกัน แต่นายโชคชัยน่าจะมีเจตนาให้ข่าวที่ขัดแย้งกับข้อมูลดังกล่าว

นายมนต์ชัยกล่าวว่า ในฐานะผู้ถือหุ้นของ บมจ.การบินไทยเห็นว่า การให้ข่าวของนายโชคชัยตามที่ปรากฏตามสื่อ น่าจะมีเจตนาที่จะทำให้ และได้ทำให้ผู้ถือหุ้น และประชาชนทั่วไปเกิดความสับสนในข้อมูลที่ได้รับ จึงใคร่ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ดำเนินการตรวจสอบใน 2 เรื่องสำคัญ

เรื่องที่ 1 ขอให้ตรวจสอบว่างบการเงินที่ บมจ.การบินไทย ได้จัดทำขึ้นอย่างถูกต้องหรือไม่ และ/หรือ เรียกให้ บมจ.การบินไทยส่งงบการเงินที่ถูกต้องมาให้ใหม่ รวมทั้งขอให้ตรวจสอบว่าได้มี หรือน่าจะมีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนต่อมาตรา 56 ประกอบมาตรา 58 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ อันจะมีความผิดตามมาตรา 274 หรือไม่ และหากมีการกระทำการดังกล่าว ขอให้สำนักงาน ก.ล.ต.ดำเนินการตามกฎหมายต่อนายโชคชัย รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และคณะกรรมการ บมจ.การบินไทย และบุคคลอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง

เรื่องที่ 2 ขอให้สำนักงาน ก.ล.ต.ตรวจสอบว่า การให้ข่าวของนายโชคชัยตามที่ปรากฏตามสื่อ น่าจะเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 238 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 หรือไม่ เนื่องจากเป็นการบอกกล่าวข้อความอันเป็นเท็จ (ในกรณีที่ผลการตรวจสอบปรากฏว่างบการเงินที่ส่งให้ ก.ล.ต.ถูกต้องแล้ว) หรือข้อความใดโดยเจตนาให้ผู้อื่นสำคัญผิดในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน หรือราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น จึงขอให้สำนักงาน ก.ล.ต.ดำเนินการตามกฎหมายต่อนายโชคชัย รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และคณะกรรมการ บมจ.การบินไทย และบุคคลอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผู้ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินกิจการของ บมจ.การบินไทย

ทั้งนี้ มาตรา 238 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้บริษัทหลักทรัพย์ หรือผู้ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินกิจการของบริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทออกหลักทรัพย์ หรือผู้มีส่วนได้เสียในหลักทรัพย์บอกกล่าวข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อความใดโดยเจตนาให้ผู้อื่นสำคัญผิดในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน หรือราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท หรือนิติบุคคลที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือหลักทรัพย์ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์”

ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 บัญญัติว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 238 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับเป็นเงินไม่เกินสองเท่าของผลประโยชน์ที่บุคคลนั้นๆ ได้รับไว้ หรือพึงจะได้รับเพราะการกระทำฝ่าฝืนดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ค่าปรับดังกล่าวต้องไม่น้อยกว่าห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น