“สภาธุรกิจตลาดทุนไทย” แจงผลงานในครึ่งปีแรก หลายงานประสบความสำเร็จ พร้อมเล็งเห็นความจำเป็นและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาคธุรกิจในตลาดทุนไทยในการเข้าสู่การเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน รุดหารือ ก.ล.ต.จัดเตรียมทำแผนรับมือ AEC พร้อมเตรียมทำแผนยุทธศาสตร์ปรับวิสัยทัศน์ตลาดทุนไทยใหม่
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (สธท.) เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานของสภาธุรกิจตลาดทุนไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ว่า สธท.ประสบความสำเร็จในการผลักดันแต่งตั้งคณะกรรมการตลาดทุนไทยขึ้นมาได้ และได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเข้ามาช่วยดำเนินง่ายด้านต่างๆ เพื่อสานต่อนโยบายและแนวทางที่กำหนดไว้แล้ว
อีกทั้งภารกิจการให้ความรู้ด้านการเงินแก่ประชาชนทั่วไป ขณะนี้ได้รับความใส่ใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนมากขึ้น โดยมีการแต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อเดินหน้าในเรื่องนี้ ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน อีกทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมา เพื่อมุ่งหวังให้ความรู้ด้านเงินแก่ประชาชนโดยเฉพาะ ทำให้ภาพรวมเป็นรูปธรรมมากขึ้น
นอกจากนี้ สธท.ได้ร่วมเดินทางไปกับภาครัฐเพื่อนำเสนอข้อมูลตลาดหุ้นไทยให้แก่นักลงทุนต่างประเทศในหลายที่ เช่น จีน กลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง เพราะมองว่าเมื่อสหรัฐอเมริกา และยุโรปยังมีปัญหาอยู่ ถือเป็นโอกาสที่จะชักชวนให้นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวย้ายเม็ดเงินทุนมาที่ตลาดหุ้นไทย รวมถึงยังประสบความสำเร็จในการผลักดันร่างกฏหมายรองรับการต่อต้านการฟอกเงิน ซึ่งได้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร และผ่านวาระแรกไปแล้ว
ส่วนเป้าหมายในช่วงครึ่งปีหลัง นายไพบูลย์กล่าวว่า สธท.ได้หารือกับ ก.ล.ต. โดยขอเป็นคนกลางในการจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมตลาดทุนไทยในการเข้าสู่การค้าเสรี AECซึ่งจากการหารือมีความเห็นว่าควรเตรียมการให้ภาคธุรกิจมีความพร้อมอย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยจะเปิดเวทีเวิร์คชอประดมสมอง ประชุมระหว่างองค์กรต่างๆ ในสภาธุรกิจตลาดทุนไทยทุกไตรมาส พร้อมทั้งรับฟังนโยบายจากสำนักงาน ก.ล.ต.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแนวทางในการเตรียมความพร้อมของอุตสาหกรรมต่างๆ ในตลาดทุนไทย ให้พร้อมรับมือและปรับแผนการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน
นอกจากนี้ เพื่อให้การกำหนดยุทธศาสตร์และแผนการดำเนินงานของตลาดทุนไทยในภาพรวมมีความชัดเจนและสอดคล้องกันทั้งระบบ ทั้งสองหน่วยงานจึงมีแผนที่จะร่วมกันจัดทำ Branding ของตลาดทุนไทยใหม่ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ กำหนดวิสัยทัศน์ของตลาดทุนไทยให้สอดคล้องกับสิ่งที่จะดำเนินการในอนาคตที่ไม่มองเพียงแค่ AEC เท่านั้น
