บิวเดอสมาร์ท เผยตลาด Alloy และ Fletcher ดีมานด์เพียบ ล่าสุด จับมือพาร์ตเนอร์รายใหญ่บริษัท เวิร์กเพลซ ซินเนอร์จีส์ จำกัด ตัวแทนกระจายสินค้ารายใหญ่ (Distributor) เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง
นายสุเรซ ซูบรามาเนียม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM หนึ่งในผู้นำบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และตกแต่งภายในคุณภาพสูงแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ปัจจุบัน การจัดจำหน่ายสินค้าไปยังต่างประเทศเริ่มมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ทำให้ระบบการขนส่งได้รับผลกระทบไปบ้าง
ล่าสุด บริษัทได้พาร์ตเนอร์รายใหญ่ในประเทศอินเดีย อย่าง บริษัท เวิร์กเพลซ ซินเนอร์จีส์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนกระจายสินค้ารายใหญ่ (Distributor) เพื่อจัดจำหน่ายระบบผนังกั้นห้อง (ALLOY Partitioning Systems) และระบบประตูหน้าต่าง (Fletcher Door & Window Systems) เพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าขนส่ง และให้ทันต่อความต้องการของลูกค้าที่ประเทศอินเดีย
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดในประเทศอินเดียก็ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มาก มีอัตราการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในเมืองเชนไน และอินเดียตอนใต้ ซึ่งเห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า หลายๆ ประเทศต่างเข้ามาทำการค้าที่ประเทศอินเดียกันมากขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เองได้นำ ALLOY และ Fletcher เข้าสู่ตลาดที่อินเดียไปก่อนหน้าแล้วประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา
“ตลาดหลักของบริษัทฯ ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ประเทศอินเดีย เรากำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างของตัวแทนจำหน่าย ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้ บริษัทฯ จะมีตัวแทนจำหน่ายอยู่ประมาณ 5-6 ราย ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้แต่งตั้งตัวแทนหลักอย่าง บริษัท เวิร์กเพลซ ซินเนอร์จีส์ จำกัด ขึ้นมาเพื่อเป็นการเก็บสต๊อกเซอร์วิสแทนบริษัทฯ เพื่อที่จะได้ย่นระยะเวลา และให้รวดเร็วมากขึ้นในการส่งสินค้า” นายสุเรซกล่าว
นายสุเรซกล่าวต่อไปอีกว่า ปัจจุบัน มาร์จิ้นของ 3 ธุรกิจหลักได้แก่ 1) ระบบผนังกั้นห้อง (ALLOY Partitioning Systems) 2) ผลิตภัณฑ์ยิปซัมครบวงจร (Gypsum Wall & Ceiling Products) 3) ระบบประตูหน้าต่าง (Fletcher Door & Window Systems) ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะ ALLOY และ Fletcher อยู่ที่ประมาณ 30-35% ส่วน Gypsum อยู่ที่ประมาณ 15%
สำหรับในปี้นี้ Fletcher ถือว่าเป็นพระเอกของบริษัทฯ เนื่องจากว่า มีลูกค้ารู้จักกันอย่างแพร่หลายในทั่วโลก บริษัทฯ จึงถือเป็นจุดแข็งในการแข่งขัน ดังนั้น การทำตลาดของ Fletcher มี 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1.การทำตลาดในประเทศจะมีทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งในเขตกรุงเทพฯ จะสังเกตได้ว่า บริษัทฯ จะเน้นไปที่คอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์ ซึ่งบริษัทฯ จะมีโปรดักต์เฉพาะที่ใช้โดยตรง 2.การทำตลาดในต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการหาพาร์ตเนอร์เข้ามา เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการขนส่ง และให้รวดเร็วถึงมือลูกค้าได้อย่างฉับไว
นายสุเรซ ซูบรามาเนียม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM หนึ่งในผู้นำบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และตกแต่งภายในคุณภาพสูงแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ปัจจุบัน การจัดจำหน่ายสินค้าไปยังต่างประเทศเริ่มมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ทำให้ระบบการขนส่งได้รับผลกระทบไปบ้าง
ล่าสุด บริษัทได้พาร์ตเนอร์รายใหญ่ในประเทศอินเดีย อย่าง บริษัท เวิร์กเพลซ ซินเนอร์จีส์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนกระจายสินค้ารายใหญ่ (Distributor) เพื่อจัดจำหน่ายระบบผนังกั้นห้อง (ALLOY Partitioning Systems) และระบบประตูหน้าต่าง (Fletcher Door & Window Systems) เพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าขนส่ง และให้ทันต่อความต้องการของลูกค้าที่ประเทศอินเดีย
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดในประเทศอินเดียก็ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มาก มีอัตราการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในเมืองเชนไน และอินเดียตอนใต้ ซึ่งเห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า หลายๆ ประเทศต่างเข้ามาทำการค้าที่ประเทศอินเดียกันมากขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เองได้นำ ALLOY และ Fletcher เข้าสู่ตลาดที่อินเดียไปก่อนหน้าแล้วประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา
“ตลาดหลักของบริษัทฯ ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ประเทศอินเดีย เรากำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างของตัวแทนจำหน่าย ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้ บริษัทฯ จะมีตัวแทนจำหน่ายอยู่ประมาณ 5-6 ราย ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้แต่งตั้งตัวแทนหลักอย่าง บริษัท เวิร์กเพลซ ซินเนอร์จีส์ จำกัด ขึ้นมาเพื่อเป็นการเก็บสต๊อกเซอร์วิสแทนบริษัทฯ เพื่อที่จะได้ย่นระยะเวลา และให้รวดเร็วมากขึ้นในการส่งสินค้า” นายสุเรซกล่าว
นายสุเรซกล่าวต่อไปอีกว่า ปัจจุบัน มาร์จิ้นของ 3 ธุรกิจหลักได้แก่ 1) ระบบผนังกั้นห้อง (ALLOY Partitioning Systems) 2) ผลิตภัณฑ์ยิปซัมครบวงจร (Gypsum Wall & Ceiling Products) 3) ระบบประตูหน้าต่าง (Fletcher Door & Window Systems) ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะ ALLOY และ Fletcher อยู่ที่ประมาณ 30-35% ส่วน Gypsum อยู่ที่ประมาณ 15%
สำหรับในปี้นี้ Fletcher ถือว่าเป็นพระเอกของบริษัทฯ เนื่องจากว่า มีลูกค้ารู้จักกันอย่างแพร่หลายในทั่วโลก บริษัทฯ จึงถือเป็นจุดแข็งในการแข่งขัน ดังนั้น การทำตลาดของ Fletcher มี 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1.การทำตลาดในประเทศจะมีทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งในเขตกรุงเทพฯ จะสังเกตได้ว่า บริษัทฯ จะเน้นไปที่คอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์ ซึ่งบริษัทฯ จะมีโปรดักต์เฉพาะที่ใช้โดยตรง 2.การทำตลาดในต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการหาพาร์ตเนอร์เข้ามา เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการขนส่ง และให้รวดเร็วถึงมือลูกค้าได้อย่างฉับไว